โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ ฉลองครบรอบ 1 ปีแห่งความภาคภูมิใจ พร้อมเดินหน้าก้าวสู่ปีที่ 2 ด้วยการประกาศความพร้อมรักษาผู้ป่วยได้ครอบคลุมทุกกลุ่มโรค มุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางการรักษาโรคซับซ้อนที่รักษายาก และพัฒนาตนเองให้เป็นเลิศทางการแพทย์มาตรฐานศิริราช เพื่อนำรายได้กลับคืนสู่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ในการช่วยเหลือผู้ป่วยที่ขาดแคลน และพัฒนา ยกระดับการแพทย์ของประเทศไทยต่อไป
ดร.จิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา ร่วมยินดีกับ ศ.คลินิก นพ.ประดิษฐ์ ปัญจวีณิน, รศ.นพ.ชาญ ศรีรัตนสถาวร และ นพ.กฤตย์วิกรม ดุรงค์พิศิษฎ์กุล ที่บริหาร รพ.ศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ มาครบ 1 ปี.
ศ.คลินิก นพ.ประดิษฐ์ ปัญจวีณิน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ เผยถึง 1 ปีที่โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ เปิดให้บริการแก่ประชาชนในส่วนแรก ตั้งแต่เดือนเมษายนปีที่ผ่านมา โดยนำร่องให้บริการด้านศูนย์อายุรกรรมทั่วไป ศูนย์ศัลยกรรมทั่วไป รวมทั้งแผนกตา หู คอ จมูก นรีเวช ศูนย์โรคกระดูกและข้อ ศูนย์หัวใจ ศูนย์มะเร็ง ศูนย์ตรวจสุขภาพ และศูนย์เด็ก สามารถรองรับผู้ป่วยได้มากกว่า 700 คนต่อวัน และเปิดบริการผู้ป่วยในจำนวน 99 เตียง คิดเป็น ร้อยละประมาณ 30 ของพื้นที่ ประกอบด้วยหอผู้ป่วยวิกฤติทั่วไป (I.C.U.) 9 ห้อง หอผู้ป่วยวิกฤติหัวใจ (C.C.U.) 8 ห้อง และหอผู้ป่วยทั่วไป 82 ห้อง
ภาพรวมตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ถือว่าประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ได้รับการยอมรับเป็นอย่างดีจากประชาชนที่เข้ามาใช้บริการเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในส่วนของผู้ป่วยนอก ช่วงแรกมีผู้มารับบริการประมาณ 1,500-2,000 รายต่อเดือน ปัจจุบันเพิ่มขึ้นเป็น 12,000 รายต่อเดือน และอัตราการครองเตียงเกือบ 100% อยู่ตลอดเวลา ทำให้ขณะนี้มีผู้ป่วยรอเข้ารับการรักษาในหอผู้ป่วยในเป็นจำนวนมาก ทางโรงพยาบาลจึงมีแนวความคิดที่จะขยายการให้บริการผู้ป่วยในเพิ่มมากขึ้น โดยจะทยอยเปิดพื้นที่รองรับผู้ป่วยในเฟสต่อไปเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 25-30 ต่อปี
ศ.นพ.พิทยภูมิ ภัทรนุธาพร รอง ผอ.โรงพยาบาล โชว์ศักยภาพเครื่องมือตรวจหาเซลล์มะเร็ง.
สำหรับปีที่ 2 ของการให้บริการ จะพัฒนาเพื่อก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางรักษาโรคซับซ้อนที่รักษายาก 4 สาขา ประกอบด้วย ศูนย์มะเร็ง ศูนย์กระดูกและข้อ ศูนย์หัวใจ ศูนย์ทางเดินปัสสาวะ ซึ่งเป็นโรคที่คนไทยเป็นกันมาก ต้องอาศัยประสบการณ์ความสามารถของแพทย์และพยาบาลเฉพาะทางมากกว่า 1 สาขาในการวินิจฉัยเพื่อหาวิธีการรักษาผู้ป่วย
ศ.คลินิก นพ.ประดิษฐ์ กล่าวถึงความสำเร็จของโรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ ด้วยว่า เกิดจากความเชื่อมั่นและศรัทธาในทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและคุณภาพการรักษาตามมาตรฐานศิริราช บวกกับจุดเด่นในด้านการบริการที่สะดวกรวดเร็วเช่นเดียวกับบริการของโรงพยาบาลเอกชน มีการดูแลใกล้ชิดในบรรยากาศอบอุ่นเหมือนครอบครัว ด้วยอัตราค่าบริการที่สมเหตุสมผล เพียงพอที่จะสามารถเลี้ยงตัวเองและนำเงินรายได้จากการดำเนินงานกลับคืนสู่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยด้อยโอกาสและกิจการของคณะ ตามแนวคิด “ผู้รับและผู้ให้” ในเวลาเดียวกัน ซึ่งถือเป็นมิติใหม่ของโรงพยาบาลรัฐ ที่จะนำไปสู่การพัฒนาศิริราชและวงการแพทย์ไทยให้มีความเป็นเลิศ สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล.
