100 ปี ธนาคารออมสิน
 


100 ปี ธนาคารออมสิน


100 ปี ธนาคารออมสิน

เมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา ท่านผู้อ่านหลายท่านคงจะได้เห็นภาพโฆษณาในโทรทัศน์และการลงแจ้งความโฆษณาเต็มหน้า ในหนังสือพิมพ์เกือบทุกฉบับ รวมทั้งไทยรัฐด้วย ...ว่าธนาคารออมสินมีอายุครบ 100 ปีเรียบร้อยแล้ว

ถ้าเป็นมนุษย์ก็ต้องถือว่าย่างเข้าสู่วัยชราอย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งในปัจจุบันนี้ประเทศไทยเราทั้งประเทศดูเหมือนจะมีเพียงไม่กี่คน

แต่สำหรับองค์กรหรือสถาบันหรือบริษัทห้างร้านต้องถือว่าเป็นวัยที่แข็งแกร่งมาก ก็คงไม่ถึงกับหนุ่มแต่ก็ไม่แก่ ถือว่ากำลังดีและเป็นจุดเริ่มต้นที่จะก้าวทะยานต่อไป

สู่ปีที่ 150 หรือ 200 เหมือนดังบริษัทใหญ่ๆ หลายบริษัทในต่างประเทศ

ในฐานะคนไทยคนหนึ่งที่เติบโตมากับธนาคารออมสิน รวมทั้งมีความรู้สึกที่ใกล้ชิดและผูกพันตั้งแต่แรกเกิดมาจนถึงบัดนี้ก็กว่า 70 ปีเข้าไปแล้ว

หรือถ้านับตั้งแต่จำความได้ คือตอนมีอายุ 7 ปี หรือ 7 ขวบ เป็นต้นมา ความสัมพันธ์ระหว่างหัวหน้าทีมซอกแซกกับธนาคารออมสินก็ยาวนานถึง 64 ปี

ช่วงนั้นน่าจะเรียนอยู่ชั้นประถมปีที่ 2 ที่โรงเรียนประชาบาล วัดส้มเสี้ยว อำเภอบรรพตพิสัย คุณครูประจำชั้นท่านเกณฑ์เด็กๆนักเรียนทั้งห้องไปฝากเงินคนละกี่บาทจำไม่ได้แล้ว แต่จำได้ว่าได้สมุดออมสินมา 1 เล่ม และกระปุกออมสินอีก 1 กระปุก ที่ผู้จัดการสาขาอำเภอมอบให้เป็นที่ระลึกแก่เด็กๆที่มาสมัครเป็นลูกค้าทุกคน

ช่วงนั้นเช่นเดียวกัน ในหนังสืออ่านเอาเรื่องที่คุณครูท่านสอนมีอยู่เรื่องหนึ่งตั้งชื่อว่า “ออมไว้ไม่ขัดสน” ซึ่งก็จำไม่ได้เช่นกันว่าเนื้อหาเป็นอย่างไร แต่จำได้แม่นยำว่าพอคุณครูท่านสอนให้เราอ่านเล่มนี้แล้วก็แนะนำให้รู้จักออม โดยให้เก็บเงินวันละสลึง 2 สลึง จนได้หลายๆบาทแล้วค่อยไปฝากธนาคารออมสินดังกล่าว

ภายหลังเมื่อมาอยู่กรุงเทพฯเรียนจบออกทำงานมีเงินเดือนและมีรายได้มากขึ้น ก็ชักเริ่มห่างเหินธนาคารออมสิน เงินที่ได้มาในระยะหลังมักจะไปฝากธนาคารพาณิชย์อื่นๆที่ดูใหญ่กว่า โอ่โถงกว่า และมีความเป็นธุรกิจมากกว่า

แต่กระนั้นก็ไม่เคยลืมธนาคารออมสินเลย เพราะถึงตัวเองจะไม่ฝากเงินถอนเงิน หรือเกี่ยวข้องกับธนาคารนี้อีก ทว่าวงจรชีวิตก็ยังวนเวียนอยู่ใกล้ๆนั่นแหละ

เนื่องจากลูกๆซึ่งต้องเรียนวิชาออมทรัพย์เหมือนกัน จึงได้รับคำแนะนำจากคุณครูเช่นกัน ให้ไปเปิดบัญชีเงินฝากไว้กับธนาคารออมสินใกล้บ้านจนได้

จากเอกสารที่ค้นได้ทำให้ทราบว่า ธนาคารออมสินถือกำเนิดจากพระวิสัยทัศน์ของ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ที่ทรงสถาปนากิจการออมสินของแผ่นดินขึ้นครั้งแรก โดยตราพระราชบัญญัติคลังออมสินเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ.2456

ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานทุนประเดิมไว้ 1 แสนบาท สำหรับคลังออมสิน และให้เปิดบริการรับฝากเงินจากอาณาประชาราษฎร์นับแต่นั้นสืบมา

ทั้งนี้ ด้วยมีพระราชประสงค์ที่จะให้สยามประเทศมี “สถานที่สำหรับเก็บรักษาทรัพย์สินของราษฎรที่ออมมาจากความวิริยะอุตสาหะในการประกอบอาชีพ เพื่อเป็นทุนติดตัวไว้อย่างปลอดภัย”

หลังจากดำเนินกิจการคลังออมสินไปได้ระยะหนึ่งก็ทรงมีพระราชดำริให้ขยายงานคลังออมสินออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่ในพระนครเท่านั้น ยังมุ่งไปสู่ต่างจังหวัดด้วย

มาถึงยุคสมัยของรัชกาลที่ 7 ได้เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำตั้งแต่ปี พ.ศ.2469 เป็นต้นมา ทำให้การระดมเงินฝากค่อนข้างยาก จึงมีพระบรมราชโองการให้โอนกิจการ “คลังออมสิน” จาก กระทรวงพระคลังมหาสมบัติไปสังกัดกรมไปรษณีย์โทรเลข ซึ่งสังกัดกระทรวงพาณิชย์และคมนาคมในยุคโน้น

เนื่องด้วยกรมไปรษณีย์โทรเลขมีที่ทำการสาขากระจายอยู่ทั่วพระราชอาณาจักร สามารถจะระดมเงินฝากจากราษฎรได้อย่างกว้างขวางกว่า

คลังออมสินไปขึ้นอยู่กับกรมไปรษณีย์โทรเลขอยู่นานพอสมควร จนถึง พ.ศ.2490 จึงได้มีพระราชบัญญัติแยกคลังออมสินออกมาจากกรมไปรษณีย์ เป็น “ธนาคารออมสิน” ดำเนินกิจการครบวงจรในฐานะธนาคารที่มีรัฐบาลเป็นประกันเป็นครั้งแรก และปีแรก

มาถึงวันนี้ 100 ปีผ่านไป จากคลังออมสินเล็กๆ ที่ได้รับพระราชทานทุนประเดิม 100,000 บาท ธนาคารออมสินได้กลายเป็นสถาบันการเงินที่แข็งแกร่งสถาบันหนึ่งของประเทศ โดยตัวเลขเมื่อปี 2555 มีสินทรัพย์รวมถึง 1.96 ล้านล้านบาท มีสินเชื่อคงค้าง 1.58 ล้านล้านบาท มียอดเงินฝาก 1.67 ล้านล้านบาท มีกำไรสุทธิ 21,027 ล้านบาท และมีหนี้เสียเพียง 1.06 เปอร์เซ็นต์

ไม่เพียงเท่านั้น ธนาคารออมสินยังกลายเป็นธนาคารของประชาชนเต็มตัว โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยและผู้ประกอบการค้ารายเล็กรายน้อย มีโอกาสเข้าถึงแหล่งสินเชื่อได้มากขึ้น นับตั้งแต่ปี 2544 เป็นต้นมา

ปัจจุบันนี้มีประชาชนเข้าร่วมโครงการกว่า 3 ล้านบัญชีแล้ว...และมีผู้ขอสินเชื่อกว่า 8 แสนรายเพื่อไปลงทุนต่างๆ และคาดว่าใน 10 ปีข้างหน้า ธนาคารออมสินจะมีส่วนทำให้คนไทยกว่า 3 ล้านครอบครัวมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

วันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคมที่จะถึงนี้ ตั้งแต่เวลา 17.30 น. เป็นต้นไป ณ ห้องประชุมใหญ่ของโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ธนาคารออมสินจะจัดงานเฉลิมฉลองวาระครบ 100 ปี อย่างเป็นทางการ ภายใต้ชื่องานว่า “100 ปีออมสิน ออมสุข”

จะมีการแสดงละครเพลงเรื่อง “เก็บหอมออมรัก” และจะมีการบรรเลงดนตรีพิเศษโดยคุณ บัณฑิต และคุณ แมรี่ อึ้งรังษี

พ่องานก็คือ วรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี ผู้อำนวยการออมสินคนล่าสุดที่เข้ารับตำแหน่ง เมื่อต้นปีนี้เอง แต่ก็เคยเป็นกรรมการ และเป็นรองผู้อำนวยการหลายปี คุ้นเคยกับธนาคารออมสินอย่างดียิ่ง

ในฐานะลูกค้าคนหนึ่งดังได้กล่าวไว้แล้ว หัวหน้าทีมซอกแซกและทีมงานขอให้กำลังใจ และขออาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลกจงโปรดช่วยอำนวยพรให้ธนาคารออมสินจะประสบความสำเร็จยิ่งๆขึ้น

ขอให้อยู่ยั้งยืนยงไปตราบนานเท่านาน อย่าไปกำหนดเลยว่าอีกกี่ร้อยปี...เอาเป็นว่าตราบใดที่ยังมีประเทศไทย ก็ขอให้มีธนาคารออมสินอยู่คู่เคียงตลอดไปก็แล้วกันครับ

หมายเหตุ ข้อมูลและตัวเลขบางส่วนคัดลอกมาจากนิตยสาร Marketeer ฉบับที่กำลังวางแผงอยู่ในขณะนี้ ขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ.

“ซูม”



// //

Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.