รถต้นแบบแนวคิดประหยัดเชื้อเพลิง Volkswagen XL-1 สุดยอดเครื่องยนต์ประหยัดพลังงานบนเรือนร่างแบบสองทีี่นั่ง จิบน้ำมันเพียงแค่ลิตรเดียววิ่งได้ระยะทาง 111 กิโลเมตร...

Volkswagen ยักษ์ใหญ่แห่งโลกยนตรกรรมจากเยอรมนีทำการพัฒนารถยนต์แบบประหยัดพลังงานเพื่อ ตอบสนองต่อความต้องการในอนาคต จากวิสัยทัศน์อันยาวไกลของ Dr.Ferdinand Piech ประธานบริหารกลุ่ม Volkswagen ซึ่งต้องการสร้างรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงอย่างจำกัดและมีประสิทธิภาพเหนือกว่ารถพลังงานไฟฟ้าในปัจจุบันที่วิ่งได้ระยะทางไม่ไกลนัก แนวคิดดังกล่าวก่อกำเนิดยานยนต์ประหยัดพลังงาน Volkswagen XL-1 ซึ่งผ่านการทดสอบวิจัยและพัฒนาจนสามารถแล่นได้ด้วยน้ำมันเพียงแค่ 1 ลิตร โดยได้ระยะทางมากถึง 111 กิโลเมตร

ด้วยเรือนร่างแบบแคปซูลผลิตจากวัสดุประเภทคาร์บอนคอมโพสิต ฐานล้อหลังถูกต้องตามหลักอากาศพลศาสตร์ที่ดีด้วยการปิดครอบป้องกันกระแสลม เข้าไปรบกวน ความปราดเปรียวเพรียวลมไหลลื่นจากงานออกแบบที่ผ่านการทดสอบในอุโมงค์ลมเพื่อให้ได้ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศต่ำมากที่สุด(cd-0.189) สัดส่วนด้านหน้าโค้งมนวางกระจังหน้าขนาดเล็กคาดกลางบริเวณด้านหน้า แม้ชิ้นงานกระจังหน้าจะมีขนาดไม่ใหญ่แต่สามารถเหนี่ยวนำเอากระแสลมเย็นด้านนอกเข้าไประบายความร้อนให้กับชุดแบตเตอรี่ได้ ไฟหน้าของ Volkswagen XL-1ใช้ไฟแบบ LED โดยมีไฟหรี่ Daytime Runing รูปตัวแอลวางตำแหน่งอยู่ใต้ชุดไฟหน้า ด้านข้างตัวถังลู่ลมด้ยการไล่ระดับความลาดเอียงของแนวหลังคาจากเสาหน้าไป จนถึงเสาท้ายทำให้ดูคล้ายกับแคปซูลหรือยานอวกาศทรงพิลึก ไฟท้ายและสัดส่วนบั้นท้ายที่ปิดทึบเพื่อการแหวกอากาศทำให้ XL-1 มีรูปลักษณ์แปลกตาไปจากรถยนต์ปกติค่อนข้างมาก ด้วยค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านทานอากาศที่ดีทำให้มันไม่มีกระจกมองข้างซึ่ง เปลี่ยนมาใช้กล้องขนาดเล็กติดตั้งไว้แทน กล้องมองข้างจะส่งภาพมายังจอมอนิเตอร์ที่ออกแบบให้อยูในแผงประตู ส่วนบานประตูทั้งสองใช้การเปิด-ปิดแบบปีกนกหรือ Gull-Wing เพื่อเพิ่มความลู่ลมและความสะดวกในการเข้า-ออก เนื่องจากการออกแบบประตูในลักษณะดังกล่าวเป็นการใช้พื้นที่ขนาดเล็กให้เกิดประโยชน์สูงสุด

รถต้นแบบ Volkswagen XL-1 ใช้เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าร่วมแกนเสริมแรงแบบ Plug-in Hybrid มีประสิทธิภาพมากพอในการวิ่งด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ระยะทางถึง 50 กิโลเมตร (จำกัดความเร็ว) โดยมีการปล่อยมลพิษเท่ากับศูนย์ รถ Volkswagen XL-1 วางเครื่องยนต์ดีเซลแบบแถวเรียง 2 กระบอกสูบ อัดอากาศเข้าท่อร่วมไอดีด้วยเทอร์โบ ระบบจ่ายเชื้อเพลิงเป็นแบบคอมมอลเรลไดเรคอินเจคชั่น TDi เครื่องยนต์ขนาดจิ๋วตัวนี้พัฒนามาจากเครื่องยนต์ดีเซล 1.6 ลิตร โดยตัดตำแหน่งของลูกสูบออกไปสองตำแหน่งเหลือเพียงแค่ 2 กระบอกสูบ ทำให้ขนาดและน้ำหนักของเครื่องลดลงมาก เครื่องดีเซล 2 สูบมีปริมาตรความจุกระบอกสูบ 800 ซีซี กระบอกสูบคูณช่วงชักที่ 81.1 มิลลิเมตร X 80.5 มิลลิเมตร ผลิตกำลังสูงสุด 48 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 120 นิวตันเมตร ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าเสริมแรงมีกำลัง 27 แรงม้าแต่มีแรงบิดสูงถึง 140 นิวตันเมตร เมื่อรวมเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าเข้าด้วยกัน รถ Volkswagen XL-1 จะมีเรี่ยวแรง 69 แรงม้าและมีแรงบิด 140 นิวตันเมตร ระบบส่งกำลังแตกต่างจากรถแบบ Plug-in Hybrid ทั่วๆไปที่นิยมใช้เกียร์ CVT ชุดเกียร์ของ Volkswagen XL-1 Plug-in Hybrid เป็นเกียร์อัตโนมัติแบบ DSG คลัตช์คู่ 7 สปีด สมรรถนะด้านอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใช้เวลา 12.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

แบตเตอรี่ที่ใช้ใน XL-1 เป็นแบบ Lilhium-ion ซึ่งมีประสิทธิภาพมากพอในการกักเก็บพลังงานกระแสไฟฟ้า สำหรับการวิ่งใช้งานด้วยโหมดมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวนั้น รถ XL-1 จะใช้กระแสไฟเพียง 0.1 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมงต่อระยะทาง 1 กิโลเมตร หลักการทำงานของเครื่องยนต์และมอเตอร์เสริมแรงคล้ายกับรถยนต์แบบ Plug-in Hybrid ทั่วๆ ไป โดยเครื่องยนต์ของ Volkswagen XL-1 Plug-in Hybrid วางอยู่กลางลำตัวเพื่อขับเคลื่อนล้อคู่หลัง ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าเสริมแรงถูกวางอยู่บนแกนล้อหน้ารวมทั้งชุดแบตเตอรี่เพื่อการกระจายน้ำหนักที่ดี วิศวกรของ Volkswagen พัฒนาจนเครื่องยนต์ 2 สูบตัวนี้คายไอเสียต่ำเพียงแค่ 21 กรัมต่อหนึ่งกิโลเมตรซึ่งนับว่าต่ำมาก เครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลขนาดเล็กของ Volkswagen ยังผ่านมาตรฐานการปล่อยมลพิษในระดับ EURO-6 เมื่อขับใช้งานร่วมแกนทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า รถ XL-1 สามารถวิ่งได้ไกล 500 กิโลเมตรโดยมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 10 ลิตร โครงสร้างหลักจากวัสดุผสมคาร์บอนไฟเบอร์-อะลูมินั่มอัลลอยมีทั้งความแข็งแรง และน้ำหนักที่เบามาก

มิติตัวถังของ Volkswagen XL-1 มีขนาดกะทัดรัดและสั้นกว่า Volkswagen POLO ซึ่งเป็นรถเล็กยอดนิยมในค่าย Volkswagen สัดส่วนความสูงของมันยังเตี้ยกว่า Porsche Boxster โดยมีความสูงเพียง 1,153 มิลลิเมตร กว้าง 1,665 มิลลิเมตรและยาว 3,888 มิลลิเมตร น้ำหนักที่เบาเพียงแค่ 795 กิโลกรัม เกิดจากโครงสร้างที่ผลิตขึ้นรูปด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ เสริมความแข็็งแกร่งและรองรับแรงบิดตัวด้วยโพลิเมอร์ซึ่งให้ความยืดหยุ่นดี กว่าโลหะ น้ำหนักที่เบาของมันเกิดจากขั้นตอนของการวิจัยและพัฒนาวัสดุน้ำหนักเบาที่จะใช้ในยุคต่อไป โดยน้ำหนักตัวถังของ XL-1 อยู่ที่ 230 กิโลกรัม ชิ้นส่วนพวกฝากระโปรงหน้า-หลัง บานประตู กันชนและแชสซีส์ทำจากคาร์บอน น้ำหนักของแบตเตอรี่และอุปกรณ์ขับเคลื่อนรวม 227 กิโลกรัม น้ำหนักของชุดส่งกำลัง 153 กิโลกรัม รวมน้ำหนักของอุปกรณ์ต่างๆ อีก 185 กิโลกรัม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ให้ความสะดวกสบายขณะขับขี่ใช้งาน

อีกไม่นานเกินรอในอนาคตอันใกล้นี้ (ยกเว้นประเทศไทย) รถ Volkswagen XL-1 แบบ Plug-in Hybrid จะออกขายทั้งในยุโรปและสหรัฐอเมริกาซึ่งอาจรวมถึงประเทศจีนที่เป็นฐานการผลิตของค่าย Volkswagen ในทวีปเอเชีย นี่คือรถต้นแบบแนวคิดในการใช้พลังงานอย่างมีคุณค่าและเป็นมิตรกับสิ่ง แวดล้อม เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้คนที่ต้องการยานยนต์ซึ่งวิ่งได้ระยะทางไกล มากกว่ารถพลังงานไฟฟ้าที่ต้องคอยระวังเรื่องกระแสไฟหมดและจุดที่จะชาร์จแบตเตอรี่ เหมาะสมกับยุคที่พลังงานในรูปของเชื้อเพลิงมีราคาสูงลิบและกำลังจะหมดลงในอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้านับจากนี้.

VDO


อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail [email protected]
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom