เมื่อวันที่ 25 เม.ย. นักศึกษามหาวิทยาลัยแม่โจ้ปัจจุบัน ศิษย์เก่า ชาวร้องกวางและแนวร่วมกว่าพันคนมาร่วมชุมนุม บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดแพร่ เพื่อยื่นหนังสือนายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ ผวจ.แพร่ คัดค้านการนำมหาวิทยาลัยแม่โจ้-แพร่ เฉลิมพระเกียรติรวมเป็นมหาวิทยาลัยแพร่

สำหรับหนังสือคัดค้านระบุว่า การหลอมรวมมหาวิทยาลัยแม่โจ้-แพร่ ,มหาลัยราชภัฎอุตรดิตถ์ วิทยาเขตแพร่และศูนย์ฝึกอบรมที่ 1 (แพร่)หรือโรงเรียนป่าไม้เดิม ให้เป็นสถานบันเดียวกันเป็นแนวคิดไม่เหมาะสม เพราะทั้งสามสถาบันมีความแตกต่างกันด้านกายภาพที่มีสถานที่ตั้งห่างไกลกันและจำนวนพื้นที่ไม่เท่ากัน ในอนาคตจะมีผลต่อการจัดสรรงบประมาณ เป็นปัญหาลุกลามด้านการบริหารได้

นอกจากนี้ด้านวิชาการแต่ละสถาบันมีความเชี่ยวชาญที่แตกต่างกัน โดยมหาวิทยาลัยแม่โจ้-แพร่ฯ เน้นความเป็นเลิศทางด้านเกษตรกรรม มุ่งพัฒนาการสร้างมหาวิทยาลัยสีเขียว มหาวิทยาลัยราชภัฎอุตรดิตถ์ วิทยาเขตแพร่ เน้นวิชาการด้านสังคม,บริหารธุรกิจและการศึกษา ศูนย์ฝึกอบรมที่ 1 (แพร่)หรือโรงเรียนป่าไม้เดิม เน้นวิชาการป่าไม้เฉพาะทาง มีเอกลักษณ์พื้นฐานแตกต่างกันตามวัตถุประสงค์ของสถาบันหลัก ทำให้มีวัฒนธรรมองค์กรที่บริหารงานเป็นเอกเทศ จึงเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนามหาวิทยาลัยแพร่และจังหวัดแพร่

ตัวแทนนักศึกษาม.แม่โจ้-แพร่ รายหนึ่ง กล่าวว่า หากจังหวัดแพร่ต้องการมี “มหาวิทยาลัยแพร่”ก็สามารถจัดตั้งขึ้นใหม่ได้เลย โดยไม่ต้องรวมกับสถาบันอื่น จะทำให้จังหวัดแพร่มีสถาบันอุดมศึกษาเพิ่มอีกหนึ่งแห่ง รวมกับสถาบันที่มีอยู่แล้วเป็น 7 สถาบัน ควรกระจายตัวอยู่ทุกภูมิภาคในจังหวัดแพร่ จะทำให้ชาวแพร่และจังหวัดใกล้เคียงได้รับประโยชน์อย่างทั่วถึง คือ มหาวิทยาลัยราชภัฎอุตรดิตถ์ วิทยาเขตแพร่ อ.ลอง มหาวิทยาลัยแม่โจ้-แพร่ เฉลิมพระเกียรติ อ.ร้องกวาง วิทยาลัยเกษตรกรรมแพร่ อ.เด่นชัย มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย มหาวิทยาลัยรามคำแหง วิทยาลัยพยาบาล และศูนย์ฝึกอบรมที่ 1 (แพร่) ใน อ.เมือง

ด้านนายอภิชาติ ได้ให้กลุ่มผู้ประท้วงตั้งตัวแทนเข้ามาพูดคุย โดยสรุปว่า จุดเริ่มต้นมาจากคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน หรือ กรอ.จังหวัดแพร่ มีมติเมื่อวันที่ 22 เม.ย. 55 เสนอให้จัดตั้งมหาวิทยาลัยแพร่ โดยควบรวมสถาบันที่มีอยู่เพื่อรองรับการเปิดประเทศเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน  จากข้อมูลล่าสุด มหาวิทยาลัยแม่โจ้-แพร่ เฉลิมพระเกียรติ เป็นเพียงแค่พื้นที่ขยายการสอน ของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เชียงใหม่ ยังไม่เป็นวิทยาเขตทางกฎหมาย จึงเกิดปัญหาต่าง โดยไม่มีแนวความคิดที่จะยุบมหาวิทยาลัยแม่โจ้-แพร่ เฉลิมพระเกียรติแต่อย่างใด

ขณะนี้ได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาดำเนินการ ขั้นตอนต่อไปจะต้องทำประชาคม รับฟังความคิดเห็นของประชาชนทั้ง 8 อำเภอของจังหวัดแพร่ เพื่อนำมายกร่างนำเสนอผู้เกี่ยวข้องพิจารณาการดำเนินการต่อไป โดยวันที่ 3 พ.ค.นี้ จะนำคณะกรรมการฯ ไปร่วมหาหรือ คณาจารย์ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้-แพร่ ฯหาแนวทางแก้ไขปัญหาต่อไป ทำให้ผู้ชุมนุมพอใจและสลายตัวในที่สุด.