การเจรจาต้องจริงใจ

วันที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2556 ปีที่ 23 ฉบับที่ 8181 ข่าวสดรายวัน

การเจรจาต้องจริงใจ

คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
จ่าบ้าน

เรื่องการแถลงแก้คดีปราสาทพระวิหารของทั้งฝ่ายกัมพูชาและฝ่ายไทย เป็นเรื่องความเชื่อในเหตุผลของทั้งสองฝ่าย ซึ่งมาจากเอกสารคำตัดสินคดีปราสาทพระวิหารเมื่อ พ.ศ.2505 ซึ่งฝ่ายกัมพูชานำคดีให้ศาลโลกตัดสินพิพากษาว่าปราสาทพระวิหารเป็นของกัมพูชา

การแถลงต่อศาลโลกของทั้งสองฝ่ายเพื่อให้ตุลาการศาลโลกเชื่อว่าเป็นเช่นนั้นตามที่ทั้งสองฝ่ายใช้นักกฎหมายต่างชาติ โดยเฉพาะจากฝรั่งเศส

การแถลงคดีกับการเจรจาอาจใกล้เคียงกัน แต่การเจรจาส่วนใหญ่มักไม่มีคนกลางเข้ามาเกี่ยวข้อง

การเจรจาไม่ว่าจะเป็นเรื่องใด ทั้งสองฝ่ายต้องใช้ภาษาเดียวกัน เพราะภาษาเดียวกันย่อมมีความหมายอันสร้างความเข้าใจให้เกิดขึ้นของทั้งสองฝ่าย

การเจรจาปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ของฝ่ายเจ้าหน้าที่และฝ่ายผู้ก่อความรุนแรง ไม่ทราบว่าใช้ภาษาใดเจรจา

เรื่องของภาษา ความหมายของความและรูปประโยคอาจทำให้ความเข้าใจไปคนละความหมายก็ได้ เพราะความและรูปประโยคเช่นกรณีการใช้ภาษาฝรั่งเศสแถลงแล้วแปลมาเป็นภาษาไทย ต้องทำความเข้าใจให้ถ่องแท้ว่ามีความหมายอย่างนั้นอย่างนี้ตามความเข้าใจของภาษาฝรั่งเศส ไม่ใช่ความเข้าใจของภาษาไทย

กระนั้นการแถลงเรื่องคดีเป็นไปให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบ หรือให้เกิดการยุติปัญหานั้น

แต่การเจรจาไม่ใช่เพื่อการได้เปรียบเสียเปรียบ ทั้งยังไม่ใช่เป็นการยุติเรื่องนั้นเรื่องนี้เพียงถ่ายเดียว

หากยังเป็นการทำให้ยุติปัญหานั้นอย่างไม่เป็นปัญหาต่อไป เป็นการยุติเพื่อสร้างความเข้าใจอย่างจริงจัง และเป็นความเข้าใจที่ถ่องแท้ไม่มีความหรือถ้อยความใดนำไปบิดเบือนได้อีก

ประการสำคัญของการเจรจาต้องเป็นไปด้วยความจริงจังและจริงใจ ไม่มีการซ่อนเร้นความหมายในการเจรจานั้น และต้องเจรจาให้ครบถ้วนกระบวนความที่ทั้งสองฝ่ายต้องการ

การเจรจาปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ จะสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีประการสำคัญที่สุดต้องมีความจริงใจต่อกันอย่างแท้จริง ด้วยแนวทางอันก่อให้เกิดสันติสุขนิรันดร์

หน้า 6