โกสุมพิสัยฟื้นประเพณีลงแขกเกี่ยวข้าว
 


โกสุมพิสัยฟื้นประเพณีลงแขกเกี่ยวข้าว


โกสุมพิสัยฟื้นประเพณีลงแขกเกี่ยวข้าว
วันนี้ ( 22 พ.ย.)  ที่นาข้าวเกษตรกร ตำบลเขวาไร่  อำเภอดกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม นายอำเภอโกสุมพิสัย ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เขวาไร่ นำชาวบ้าน กว่า 100 คน จับเคียวลงแขกเกี่ยวข้าว โดยนายเลิศบุศย์  กองทอง  นายอำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม  เปิดเผยว่า การลงแขกเกี่ยวข้าว คือการหา  การวาน  เพื่อมาช่วยกันโดยไม่มีค่าจ้าง  ลักษณะเป็นการแสดงน้ำใจในการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน  ชาวนาจะหมุนเวียนช่วยกันไปเรื่อยๆ  หลังจากช่วยคนหนึ่งเสร็จวันต่อไปจะช่วยอีกคนหนึ่ง  จนกว่าจะแล้วเสร็จกันทั้งหมู่บ้าน  โดยเจ้าของบ้านจะดูแลเรื่องข้าวปลาอาหาร  การลงแขกเกี่ยวข้าว  เป็นวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมายาวนาน  ทำให้ความผูกพันในชุมชนแน่นแฟ้น  สามัคคีกันขึ้น แต่ปัจจุบันการประกอบอาชีพของคนในชุมชนเปลี่ยนแปลงไป  การดำรงชีวิตต้องดิ้นรนมากขึ้น  คนในหมู่บ้านต้องออกไปหางานทำเพื่อเลี้ยงดูครอบครัว  หนุ่มสาวต่างออกไปทำงานต่างถิ่น  คนเฒ่าคนแก่อยู่บ้านดูแลบ้าน  ครอบครัว  และผลผลิตแทน  การประกอบอาชีพทางการเกษตร  ซึ่งเดิมเคยใช้แรงงานของสมาชิกในครอบครัว  เปลี่ยนเป็นการใช้เครื่องยนต์แทนแรงงานคน  กิจกรรมใดที่ทำได้ก็จะทำด้วยตนเอง  หากทำไม่ได้ก็จะมีการไหว้วานเป็นการช่วยเหลือกันในเพียงบางเรื่องที่ไม่มีการจ้างวานกัน  เมื่อกำลังคนในหมู่บ้านไม่มีวัฒนธรรมการไหว้วานด้วยแรงงานคน  เช่น  การลงแขกเกี่ยวข้าวก็หายไป 

 

ดังนั้น อำเภอจึงร่วมกับ อบต.เขว่าไร่ได้นำชุมนมร่วมลงแขกเกี่ยวข้าว  เพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีการลงแขกเกี่ยวข้าว  อบต.เขวาไร่  อำเภอโกสุมพิสัย  จังหวัดมหาสารคาม ซึ่งมีหน้าที่บำรุงรักษาศิลปะ  จารีตประเพณี  ภูมิปัญญาท้องถิ่นและวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่น  จึงได้จัดทำโครงการสืบสานประเพณีลงแขกเกี่ยวข้าว  ในงบประมาณ  2556  ขึ้น โดยมีชาวบ้าน กว่า 100 คนมาร่วมกันลงแขกเกี่วข้าวช่วย ด้วยความสนุกสนาน  มีการล้มวัว เพื่อนำมาเป็นอาหาร เช่น ลาบ ก้อย ซึ่งเป็นอาหารเลิศรสของชาวอีสานจะมีรับประทานเฉพาะงานใหญ่ เช่น งาน บวช งานแต่ง และลงแขกเกี่ยวข้าวเท่านั้น ทำให้เกิดความสามัคคีในหมู่คณะ และได้สืบสานประเพณีที่ปู่ย่าตายาย ได้สืบทอดไว้ให้

 

นางบุญเรียน สมบัติ  อายุ  65 ปี เกษตรกรปลุกข้าว เล่าว่า    ตนเองปลูกข้าว 8 ไร่ ซึ่งในช่วงนี้เป็นช่วงฤดูเกี่ยวเกี่ยวผลิตเพื่อที่จะข้าวไปขาย  แต่ในช่วงนี้ตนเองไม่สามารถที่จ้างคนมาเกี่ยวช่วยได้เพราะในยุคนี้ค่าจ้างเกี่ยวข้าว ต้อง 300 บาท ต้องเลี้ยงอาหารเช้า อาหารเที่ยงด้วย   และหมดเวลา ตามที่กำหนด จาก เวลา 08.00 17.00 น. เวลายังไม่เสร็จ ก็นับเวลาไปอีก เป็น โอที สรุปแล้ว ก็ตกวันละ 400วัน วันหนึ่งต้องใช้ คนเกี่ยว 30 คน  ค่าปุ๋ย  อีก แต่ก็ต้องทำและต้องรีบเกี่ยวเพราะนั้นข้าวจะร่วงออกหมด จะไม่ได้ผลผลิต.



// //

Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.