กระดุมเม็ดที่ 2

วันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 ปีที่ 22 ฉบับที่ 8029 ข่าวสดรายวัน

กระดุมเม็ดที่ 2

ทิ้งหมัดเข้ามุม
มันฯ มือเสือ

หากกรณี นายพัน คำกอง ที่ศาลอาญามีคำสั่งเมื่อวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา

ระบุจากพยานหลักฐานทั้งหมดชี้ว่าผู้ตายตายเพราะถูกกระสุนจากอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติการตามคำสั่งของ ศอฉ.ขณะนั้น

คือกระดุมเม็ดแรก

ของความจริงในความตาย 99 ศพ อันเป็นผลจากอดีตรัฐบาลสั่งใช้อาวุธเข้ากระชับวงล้อมขอคืนพื้นที่การชุมนุมของประชาชนระหว่าง 10 เม.ย.-19 พ.ค.2553

กรณี นายชาญณรงค์ พลศรีลา ที่ศาลอาญามีคำสั่งนัดชี้ขาดคดีการไต่สวนชันสูตรพลิกศพถึงสาเหตุการตายในวันที่ 26 พ.ย.ที่จะถึงนี้

ก็น่าจะเป็นกระดุมเม็ดที่ 2

โดยศาลอาญามีคำสั่งนัดฟังคำชี้ขาดหลังไต่สวนพยาน 2 ปากสุดท้าย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ และอดีตผอ.ศอฉ. กับ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีและแกนนำ นปช. เมื่อวันที่ 24 ต.ค. ที่แล้วมา

การนัดหมายล่วงหน้า 1 เดือน ทำให้เห็นได้ว่า คำสั่งศาลในคดีนี้ไม่ได้ถูกวางโปรแกรมไว้อย่างตั้งใจ เพื่อให้มีผลอย่างใดอย่างหนึ่งต่อการยื่นญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านประชาธิปัตย์

รวมถึงการชุมนุมใหญ่ขับไล่รัฐบาลของกลุ่มเสธ.อ้าย ที่สังคมกำลังจับจ้องมองอยู่ว่าจะกลายเป็นชนวนนำไปสู่ความรุนแรงรอบใหม่หรือไม่

เพียงแต่บังเอิญเป็นช่วงเวลาที่โคจรมาตรงกัน

นายชาญณรงค์ พลศรีลา อายุ 45 ปี อาชีพขับแท็กซี่ ถูกยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 15 พ.ค.2553 บริเวณหน้าปั๊มเชลล์ ซอยรางน้ำ

พยานปากสำคัญในคดีคือ นายนิก นอสติทซ์ ช่างภาพชาวเยอรมันที่ถ่ายภาพนายชาญณรงค์ได้ขณะใช้หนังสติ๊กต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ ก่อนถูกกระสุนจริงยิงใส่กระทั่งเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ผลไต่สวนการชันสูตรพลิกศพจะออกมาอย่างไร จะเป็นกระดุมเม็ดที่สอง คือเดินไปในแนวทางเดียวกับกรณีนายพัน คำกอง หรือไม่

สำหรับใครบางคนที่เพิ่งถูกปลดออกจากราชการ

งานนี้ไม่ต้องแช่แข็ง

ก็มีสิทธิ์หนาวได้เหมือนกัน!

หน้า 6