ภารกิจ ของการเป็นทหาร

วันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 ปีที่ 22 ฉบับที่ 8027 ข่าวสดรายวัน

ภารกิจ ของการเป็นทหาร

คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
จ่าบ้าน

ว่าถึงการเข้ารับราชการทหารของชายไทยเมื่อวานนี้ ประการหนึ่งทุกวันนี้ ชายไทยอายุใกล้ครบ 18 ปีบริบูรณ์

ที่ต้องขึ้นทะเบียนเป็นทหารกองเกิน ส่วนใหญ่มักจะเรียนในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หรืออาชีวศึกษาปีที่ 1 ซึ่งกรมการรักษาดินแดนกำหนดให้นักเรียนเหล่านั้นเข้าเรียนวิชาการรักษาดินแดน หรือเรียกติดปากว่า "เรียน รด."

เป็นเวลา 3 ปี จะได้รับสิทธิ์ไม่ต้องเป็นทหาร และได้รับการปลดประจำการเป็นทหารกองหนุน

หากขยันเรียน เมื่อขึ้นไปเรียนในระดับอุดมศึกษาแล้วเข้ารับการศึกษาในวิชาทหารปีที่ 4 ปีที่ 5 สำเร็จแล้วจะได้รับการติดยศเป็นว่าที่ร้อยตรี ดังผู้ใหญ่หลายคนยังใช้ยศนำหน้าชื่อ "ว่าที่ร้อยตรี"

การเรียนวิชา รด.เมื่อก่อน นักเรียนที่ขึ้นไปเรียนชั้น ม.ปลาย มีเพียง 2 ชั้น จะได้เรียนวิชา รด.เพียง 2 ปี แล้วขึ้นไปเรียนต่อในมหาวิทยาลัยอีก 1 ปี เป็นอันว่าพ้นการเป็นทหารปลดประจำการ เป็นทหารกองเกิน หรือเมื่ออายุครบเกณฑ์ หากเรียน รด. 2 ปี และสมัครเข้าเป็นทหารโดยไม่ต้องคัดเลือก

จะเป็นทหารเพียงครึ่งปี แต่หากไม่สมัครจะต้องเป็นหนึ่งปี เช่นเดียวกับผู้ที่เรียนเพียงปีเดียวก็จะได้รับการลดหย่อนเป็นทหารปีหนึ่งหรือปีครึ่งตามกำหนด

หลายปีที่ผ่านมาการเข้าเรียนวิชารักษาดินแดนไม่ง่ายเหมือนเมื่อก่อน ต้องมีการสมัครและสอบวัด สมรรถนภาพทางร่างกาย เช่น วิ่ง ผู้ที่เรียนชั้น ม.ปลายจึงพยายามเข้าเรียนวิชา รด. จะได้ไม่ต้องเป็นทหารอีก

การปลดประจำการ 3 ปี จะได้รับยศทางทหารเป็นนายสิบโท เมื่อต้องเข้ารับราชการทหาร หรือเมื่อมีศึกสงคราม หรือเมื่อต้องเข้ารับการฝึกทหารเป็นครั้งคราว

ยามที่ประเทศตกอยู่ในภาวะสงคราม หรือต้องเข้าร่วมรบในสงครามที่เกิดขึ้นในบางประเทศ เช่นเมื่อครั้งสงครามเกาหลี หรือในสงครามเวียดนาม หรืออาจเป็นอาสาสมัครร่วมรบเช่นในสงครามอิรัก หรือการสู้รบในเหตุก่อการร้ายเมื่อหลายปีที่ผ่านมา

แม้แต่ในการสู้รบเหตุการณ์สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็ใช้ทหารเกณฑ์บางส่วนไปปฏิบัติหน้าที่บางประการ ยกเว้นการสู้รบที่ใช้กำลังอาสาสมัครคือทหารพรานเป็นหลัก

ทหารจึงเป็นเรื่องสำคัญของประเทศในการปกป้องประเทศชาติและประชาธิปไตย

หน้า 6