สปิริตผู้แพ้

 


สปิริตผู้แพ้


สปิริตผู้แพ้
วันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 ปีที่ 22 ฉบับที่ 8017 ข่าวสดรายวัน


สปิริตผู้แพ้


คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
สมิงสามผลัด



คงทราบผลกันอยู่แล้วว่า ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ตัวแทนจากพรรคเดโมแครต คว้าชัยชนะเหนือ นายมิตต์ รอมนีย์ ผู้ท้าชิงจากพรรค รีพับลิกัน

ได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐสมัยที่ 2 อีก 4 ปีเต็ม

แต่ที่น่าสนใจก็คือ ประธานา ธิบดีโอบามาปราศัยทันทีว่า ต้องการพบกับนายรอมนีย์ เพื่อหารือประเด็นที่จะทำงานร่วมกัน

ส่วนผู้พ่ายแพ้อย่าง นายรอม นีย์ ก็แสดงสปิริตเช่นกัน ระบุว่า ได้โทรศัพท์แสดงความยินดีกับนายโอบามาแล้ว และขออวยพรให้ประสบความสำเร็จในการบริหารประเทศ

"ประเทศอยู่ในช่วงวิกฤต เราไม่อาจเสี่ยงด้วยการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ทะเลาะวิวาท ผู้นำของเราจะต้องสามารถทำงานกับทุกฝ่ายเพื่อช่วยเหลือให้ประชาชนได้มีงานทำ และหวังว่าทั้งเดโมแครตและรีพับลิกันจะทำงานร่วมกันได้ในทุกระดับเพื่อเห็นแก่ประชาชนมากกว่าการเมือง"

เป็นประโยคที่อยากให้นักการเมืองไทยฟังให้เข้าหูจริงๆ

เป็นสปิริตของผู้พ่ายแพ้ที่น่ายกย่อง

แบบว่าแพ้แล้วจบ

ไม่ใช่แพ้เลือกตั้งแล้วก็อิดออด

ไม่ยอมรับผู้ชนะ ไม่เคารพเสียงส่วนใหญ่

อ้างว่าตัวเลขการเลือกตั้งระบบบัญชีรายชื่อยังมิได้เสียงเกินกึ่งหนึ่ง ไม่ได้ฉันทามติ

นักการเมืองมีวิสัยทัศน์แบบนี้ บ้านเมืองก็วุ่นวายไม่เลิก

จริงๆ แล้วไม่ได้คลั่งไคล้อะไรกับความเป็นอเมริกันชน

แต่ต้องยกย่องในความยึดมั่นประชาธิปไตยของพวกเขา

เคารพกติกา ยอมรับประชามติ

ที่สำคัญสหรัฐไม่มีมือที่มองไม่เห็น-ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรม นูญ

ไม่ใช้รถถังออกมาล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย ฉีกรัฐธรรมนูญกันพร่ำเพรื่อ

ไม่มีขบวนการโค่นรัฐบาล

อาศัยองค์กรอิสระปลดผู้นำประเทศเป็นว่าเล่น ยุบพรรคฝ่ายตรงข้าม

ไม่ฉวยโอกาสตั้งรัฐบาลกันในค่ายทหาร

และที่ทำให้ประชาธิปไตยของอเมริกาเข้มแข็ง

เพราะพวกเขาไม่มีแนวคิดแช่แข็งประเทศ 5 ปีนั่นเอง


หน้า 6



// //
Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.