จับสัญญาณยกเครื่อง"เพื่อไทย"

 


จับสัญญาณยกเครื่อง"เพื่อไทย"


จับสัญญาณยกเครื่อง
วันที่ 05 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 ปีที่ 22 ฉบับที่ 8012 ข่าวสดรายวัน


จับสัญญาณยกเครื่อง"เพื่อไทย"


รายงานพิเศษ


พรรคเพื่อไทยปรับโฉมขนานใหญ่ ยกเครื่องกรรมการบริหารใหม่หมด คู่ขนานกับการปรับครม.ปู 3 ภายหลัง นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ถูกวิบากกรรมการเมืองจนต้องสลัดตำแหน่งหัวหน้าพรรคและเก้าอี้รัฐมนตรีทิ้งทั้งหมด



2 ตำแหน่งหลักที่ถูกจับตาคือ หัวหน้าพรรคของ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย และเลขาธิการพรรคโดย นายภูมิธรรม เวชยชัย ว่าจะนำพาพรรคไปสู่มิติใหม่ๆ ทางการเมืองได้หรือไม่



รวมถึงจะสร้างภูมิคุ้มกันให้กับพรรคเดินไปข้างหน้า ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงจากโทษยุบพรรคได้อย่างไร



สิงห์ชัย ทุ่งทอง

ส.ว.อุทัยธานี

นายจารุพงศ์เหมาะสมที่สุด เป็นอดีตข้าราช การและยังใกล้ชิดขั้วอำนาจพรรคเพื่อไทยเก่า ไม่พูดเยอะ นิ่ง ไม่ล้ำหน้า ไม่มีประวัติด่างพร้อย เรียบง่ายแต่ไม่อ่อนแอ เป็นนัก การเมืองสมัยใหม่ เปิดกว้าง เหมาะกับสถานการณ์ปัจจุบัน



เช่นเดียวกับนายภูมิธรรมเป็นทั้งฝ่ายบู๊และบุ๋น ทำงานอยู่เบื้องหลังมาตลอด บุคคลทั้งสองและกรรมการบริหารชุดใหม่จะช่วยขับเคลื่อนพรรคไปในมิติที่ดีกว่าเดิม



ส่วนปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไขคือ การจัดการความเป็นเอกภาพภายในพรรค แต่พรรคก็มีจุดแข็งตรงนโยบายที่มีความน่าเชื่อถือ กล้าปฏิบัติ ไม่เล่นคำมาก ทำให้สามารถเดินมาได้ถึงทุกวันนี้



นายภูมิธรรมเป็นผู้คร่ำหวอดทางการเมือง หากประสานกับนายจารุพงศ์เชื่อว่าจะมีเล่ห์เลี่ยมชั้นเชิงระดับสูง ไม่ปล่อยให้พรรคเป็นตัวล่อเป้าทางการเมืองง่ายๆ ได้แน่



อีกสิ่งที่พรรคเพื่อไทยควรทำคือ สร้างความเข้าใจกับประชาชนให้ขับเคลื่อนประชาธิปไตย ไม่ใช่ปล่อยให้กลุ่มคนเสื้อแดงออกมาเคลื่อนไหวเพียงลำพัง และโดนต่อต้านตามสภาพ



แต่ควรสนับสนุนโดยเสริมหลักทางวิชาการ ซึ่งไม่ใช่เรื่องเสียหายที่จะร่วมมือกัน ช่วยเพิ่มคะแนนเสียงให้พรรคมากกว่าด้วยซ้ำ



การแข่งขันผู้ว่าฯ กทม. ปีหน้าคงยากที่พรรคเพื่อไทยจะชนะ น่าจะเป็นการส่งผู้สมัครเพื่อรักษาฐานเสียงมากกว่า แต่ถ้าอยากให้พรรคได้รับเลือกและปูทางในอนาคต ต้องเร่งสร้างผลงานให้เป็นที่ประจักษ์ เป็นชิ้นเป็นอัน เอาใจคนกทม.ให้มากขึ้น



ไม่เว้นแต่เรื่องคู่กฎหมายกับพรรคประชาธิปัตย์ ถึงแม้จะมีคนเก่งอยู่กับพรรคแต่อย่างที่บอกเรายังขาดผู้นำการบริหารจัดการพรรคที่ดีถ้าแก้ปัญหาตรงนี้ได้การพัฒนาของพรรคจะดีขึ้นตามลำดับ



ธิดา โตจิราการ

ประธาน นปช.



ไม่รู้จักนายจารุพงศ์เป็นการส่วนตัว แต่เท่าที่เคยทำงานร่วมกันเป็นคนสุภาพ อ่อนน้อม ถ่อมตน และทำงานดี เข้ากับบุคคลได้ ไม่มีบุคลิกที่แข็งกร้าว



เมื่อได้เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยน่าจะอยู่ข้างประชาชน ทำงานเพื่อประชาชนได้ดี เช่นเดียวกับหัวหน้าพรรคคนก่อนๆ



หลังจากพรรคถูกยุบมา 2 ครั้ง ตำแหน่งหัวหน้าถูกมองว่าไม่มีความหมาย พรรคเพื่อไทยจึงพยายามทำให้หัวหน้าพรรคไม่เป็นตัวหลอกอีกต่อไป ทำให้เป็นตัวจริงขึ้นมา



ต้องจับตานายจารุพงศ์จะมีบท บาททางการเมืองอย่างไร เป็นตัวจริงได้มากน้อยแค่ไหน แต่เมื่อได้รับเลือกโดยมติเอกฉันท์ คนนอกไม่ควรวิพากษ์วิจารณ์มาก ปล่อยให้ทำงานพิสูจน์ฝีมือก่อน



ในส่วนของนปช.ขอเรียกร้องให้หัวหน้าพรรคคนใหม่ทบทวนกฎหมายที่ไม่เป็นธรรม เร่งช่วยเหลือพี่น้องที่ยังอยู่ในคุก ให้ได้รับการประกันตัวออกมาสู้คดีข้างนอก รวมถึงช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียชีวิต



ส่วนนายภูมิธรรมมีประสบการณ์อยู่แล้ว การมานั่งในตำแหน่งนี้ถือว่าเหมาะสม แต่ขอติงเรื่องการต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตยที่อาจหายไปบ้าง คงคิดว่าตัวเองเป็นตัวเต็งจึงไม่จำเป็นต้องออกมาเหมือนคนอื่น



บุคคลทั้งสองน่าจะทำงานได้ดีเพื่อพี่น้องประชาชน ดิฉันจะจับ ตาการแก้ไขรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นปัญหาผลพวงจากการทำรัฐประหาร และเป็นมรดกที่ทำให้คนอยู่ในคุกและบาดเจ็บในขณะนี้



รวมทั้งคดีความต่างๆ ที่คนเสื้อแดงถูกดำเนินการเต็มไปหมด ทั้งที่ออกมาต่อสู้จนทำให้พรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้ง



ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์

นักวิชาการอิสระ



2ตำแหน่งหลักในพรรคเพื่อไทยทั้งหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคนั้น คาดว่าเป็นวัตถุประสงค์ของการจัดระเบียบพรรคใหม่ในรอบนี้



นายจารุพงศ์เป็นหัวหน้าพรรคคงเพราะเป็นข้าราชการเก่า ไม่มีปมขัดแย้งทางการเมือง และเป็นผู้ไม่เลือกข้างอย่างชัดเจน รวมทั้งมีความอาวุโสด้วย แต่เมื่อมาอยู่จุดนี้ต้องพร้อมรับสถานการณ์ เพราะมีโอกาสถูกโยกย้ายได้ทุกเมื่อ



แม้กระทั่งหลุดจากเก้าอี้รัฐมนตรี เหมือนเช่นกรณีนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนเก่า



แต่นายจารุพงศ์แม้ได้รับตำแหน่งหัวหน้าพรรค อาจไม่มีบทบาทเท่าเลขาธิการพรรคคนใหม่ นายภูมิธรรมถือเป็นผู้กว้างขวาง เหมาะกับการประสานงานหลายๆ ฝ่าย ไม่ว่าทางวิชาการหรือมวลชน



สามารถดำเนินงานตามนโยบายโดยนำผู้มีอำนาจเก่าสมัยรัฐบาลทักษิณมาร่วมเสริมทีมอีกครั้ง เพื่อเดินหน้าปรับปรุงโครงสร้างพรรคใหม่ พร้อมเร่งหาสมาชิกเพิ่มเติมให้ได้ตามเป้า รวมถึงคอยช่วยคิดนโยบายต่างๆ ให้รัฐบาล



และน่าจะเป็นผู้ควบคุมสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นบทบาทที่ทำมาตั้งแต่ยุครัฐบาลทักษิณแล้ว โดยเฉพาะบทบาทในงานด้านกฎหมายที่ทำงานให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ และพรรคมาโดยตลอด



ครั้งนี้จะเป็นการจัดระบบใหม่ ที่เกิดจากปัจจัยการแก้ไขปัญหาในพรรคเพื่อไทยด้วย ที่ผ่านมาพรรคยังมีความไม่ชัดเจนอยู่บ้างในบางเรื่อง เชื่อว่าครั้งนี้นายภูมิธรรมจะสามารถจัดระบบสมาชิกพรรคให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น



การจัดตั้งระบบใหม่นี้สะท้อนให้เห็นว่า ไม่ใช่การจัดตั้งแบบเฉพาะกิจ แต่เป็นการจัดตั้งทีมที่มีอำนาจ มีความมุ่งมั่น และสามารถเล่นการเมืองต่อได้ในระยะยาว





อัษฎางค์ ปาณิกบุตร

นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์

นายจารุพงศ์และนายภูมิ ธรรมคงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของพรรคแล้ว ทั้งสองคนจะเป็นตัวเชื่อมที่ดีระหว่างเจ้าของอำนาจอย่างพ.ต.ท.ทักษิณ กับผู้ได้รับอำนาจจากประชาชนหรือส.ส. ในสภา

เหตุที่นายจารุพงศ์เป็นหัวหน้าพรรค น่าจะเกิดจากบุคลิกและบทบาทที่คล้ายกับนายยงยุทธ คือเป็นคนที่เชื่อฟังคำสั่งพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ทะเลาะเบาะแว้ง ไม่แข็งจนเกินไป ประนีประนอม รับฟังและมีเหตุผล

นอกจากนี้ยังเคยเป็นปลัดกระทรวงเก่า น่าจะช่วยประสานงานหน่วยงานต่างๆ ง่ายขึ้น เพราะงานส่วนใหญ่ของพรรคจำเป็นต้องประสานกับหลายๆ หน่วยงาน

ขณะที่นายภูมิธรรมก็เคยเป็นรัฐมนตรีช่วยในรัฐบาลทักษิณ การเป็นเลขาธิการพรรคแสดงว่าได้รับความไว้วางใจจากพ.ต.ท.ทักษิณและคนในพรรคมากขึ้น

อย่างไรก็ตามกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ คงไม่มีอิทธิพลในการบริหารงานของรัฐบาล คงเป็นเพียงตัวเชื่อมหรือบุรุษไปรษณีย์ระหว่างพ.ต.ท.ทักษิณกับพรรคมากกว่า



โดยบทบาทกรรมการบริหารพรรคชุดนี้คงเน้นไปที่เรื่องธุรการ การเตรียมตัวเลือกตั้งซ่อม เผยแพร่และประชาสัมพันธ์ผลงานรัฐบาล มากกว่าการทำงานเชิงนโยบายซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาล

ส่วนจะเป็นเป้าและเสี่ยงต่อโทษยุบพรรคอีกหรือไม่นั้น คงไม่เกี่ยวกัน คดียุบพรรคอยู่ที่บทบาทของครม. ตัวพรรคไม่ค่อยมีผล แต่อาจมีบ้างหากมีปัญหาจากการเลือกตั้ง

แต่ทั้งนายจารุพงศ์และนายภูมิธรรมถือเป็นตัวตายตัวแทน เป็นไม้เป็นมือที่พรรคเลือกมาแล้ว คงไม่กังวลหากวันข้างหน้าจะเกิดการยุบพรรคขึ้นจริง


หน้า 3



// //
Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.