"ปู 3"ฟ้าแลบ ลุยศึกซักฟอก

วันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2555 ปีที่ 22 ฉบับที่ 8004 ข่าวสดรายวัน

"ปู 3"ฟ้าแลบ ลุยศึกซักฟอก

ทอดเวลามาเกือบ 5 เดือนเต็ม นับจากกลุ่มสมาชิกบ้าน 111 พ้นโทษจองจำทางการเมือง กว่าที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะตัดสินใจผ่าตัดโฉมหน้า ครม."ยิ่งลักษณ์ 3"

ชนิดที่บรรดารัฐมนตรีตั้งเนื้อตั้งตัวไม่ทัน เพราะไม่ระแคะระคายมาก่อน เท่าที่ได้ยินกันมาก็เพียงแต่ว่าน่าจะมีการปรับหลังผ่านพ้นศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจเดือนพ.ย.ไปแล้ว

แต่ความแน่นอนทางการเมือง คือความไม่แน่นอน

มีข่าวกระฉอกภายหลังว่า นายกฯ ยิ่งลักษณ์มีความคิดที่จะปรับครม. และหารือกับคนใกล้ชิด จัดเตรียมโผ ไว้ล่วงหน้าพักนึงแล้ว

โดยมีการลาออกของนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ จากรองนายกฯ และรมว.มหาดไทยเป็นตัวเร่งให้ต้องตัดสินใจอีกทางหนึ่ง

เพียงแต่ที่ผ่านมาติดขัดปัญหาทางเทคนิคบางประการ เลยต้องเก็บโผ ใส่ลิ้นชักอุบเงียบไว้ก่อน ป้องกันไม่ให้เกิดแรงกระเพื่อมในพรรคเพื่อไทย และรัฐบาลโดยไม่จำเป็น

กระทั่งปลายสัปดาห์ก่อนนู้น ต่อเนื่องต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เริ่มมีสัญญาณออกมาว่าช่วงเวลานี้น่าจะเหมาะสมกับการปรับครม.มากที่สุด

นายกฯยิ่งลักษณ์ จึงไม่รีรอ เรียกบุคคลที่ตนเองหมายตาไว้เข้าทำเนียบรัฐบาล กรอกประวัติส่งให้เลขาธิการครม.นำไปตรวจสอบคุณสมบัติ

ก่อนนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ทันที

ครั้งนี้ถือเป็นการปรับครม.ครั้งใหญ่

มีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งและตัวบุคคลมากถึง 2 ใน 3 ของคณะรัฐมนตรีที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้มีไม่เกิน 35 คน

ตามข่าวที่ออกมาครั้งนี้ปรับเปลี่ยนเกิน 20 คน 20 ตำแหน่ง ทั้งในส่วน"หน้าเก่า"ที่โยกสลับ กับที่เป็น"หน้าใหม่"จริงๆ 13-14 คน

ในส่วนของการสลับเก้าอี้

ที่ฮือฮาคือการโยก นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ จาก รมว.คมนาคม มาเป็นรมว.มหาดไทย โดยมีพล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก ย้ายจาก รมช.คมนาคม ตามมาช่วยงานในฐานะ รมช.มหาดไทย

ยังมีข่าวค่อนข้างชัวร์ว่า

นายจารุพงศ์ ยังจะได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ ในการประชุมใหญ่พรรควันที่ 30 ต.ค. ขณะที่นายภูมิธรรม เวชยชัย ได้รับการวางตัวเป็นเลขาฯพรรค

ตามมาด้วยนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ จาก รมช.คมนาคม อัพเกรดขึ้นเป็น รมว.คมนาคม

ขณะเดียวกันก็ย้ายนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ จาก รมช.เกษตรฯ ไปนั่งเป็นรมช.พาณิชย์ เพื่อเตรียมรับศึกซักฟอกปัญหาการรับจำนำข้าว เพราะลำพัง นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ "ฝีปาก"ยังเป็นรองฝ่ายค้านหลายขุม

ขณะเดียวกันกลุ่มบ้าน 111 ก็พาเหรดกลับลงสู่สนามเต็มตัว นำโดย นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา ที่มีชื่อเป็นรองนายกฯ ควบ รมว.ศึกษาธิการ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน

นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.ศึกษาธิการ นายวราเทพ รัตนากร และน.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ รมต.ประจำสำนักนายกฯ

กลุ่มคนเหล่านี้ถูกระบุคือ "ตัวจริง" ที่จะเข้ามาเสริมเขี้ยวเล็บให้รัฐบาล ในช่วงที่ฝ่ายค้านเตรียมยื่นญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ

แต่สำหรับ"ม้ามืด" คือนพ.ประดิษฐ์ สินธวณรงค์ ที่มาเสียบ รมว.สาธารณสุข ควงคู่มากับนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ที่มานั่งเป็น รมช.

ยังมีที่น่าสนใจคือ พล.อ.พฤณฑ์ สุวรรณทัต เพื่อนร่วมรุ่น ตท.10 กับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่มานั่งเก้าอี้ รมช.คมนาคม

กลุ่มหน้าใหม่ยังมี นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ นายประชา ประสพดี รมช.มหาดไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมช.คมนาคม และนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รมช.เกษตรฯ

ในส่วนพรรคร่วมก็เป็นไปตามข่าวก่อนหน้า

พรรคพลังชล นางสุกุมล คุณปลื้ม หลีกทางให้นายสนธยา คุณปลื้ม สามีมาเป็น รมว.วัฒนธรรม พรรคชาติไทยพัฒนา ส่งนายยุคล ลิ้มแหลมทอง มาเป็นรมว.เกษตรฯ แทนนายธีระ วงศ์สมุทร

ส่วนพรรคชาติพัฒนาเปลี่ยนให้นายประเสริฐ บุญชัยสุข ส.ส.นครราชสีมา คนสนิทนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ เข้ามารับช่วง รมว.อุตสาหกรรม แทนม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์

ถึงจะเป็นการปรับใหญ่แต่ก็ยังไม่ได้ยินเสียง"ยี้"

ส่วนที่เคยถูกจับตาว่าจะเป็นการปรับเพื่อหนีศึกซักฟอกที่จะมีขึ้น 26-27 พ.ย.หรือไม่นั้น ก็สรุปแล้วว่าไม่น่าจะใช่ เพราะรัฐมนตรีตัวเป้าอย่างปลอดประสพ สุรัสวดี นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ก็ยังมีชื่ออยู่ร่วม ครม.ปู3

โดยเฉพาะนายกฯ ที่เป็นเป้าใหญ่ก็ยังเป็น"ยิ่งลักษณ์"คนเดิม

หรือหากจะว่าเป็นการปรับตาม "ใบสั่ง"คนแดนไกลก็พูดได้ไม่เต็มปาก

หลายตำแหน่งที่ปรับเปลี่ยนมาจากไอเดียของนายกฯหญิง อาทิ นาย ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ และนพ.ประดิษฐ์ สินธวณรงค์ เป็นต้น

อาจมีโผพี่ชายเข้ามาแทรกบ้างแต่ ก็น้อยกว่าที่คาด จะมีก็แค่"เฮียเพ้ง" พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล ที่มีภาพชัดเจนว่าเป็นสายตรง

กระนั้นก็ตามปัญหาการปรับ ครั้งนี้ ที่ทีมยุทธศาสตร์เพื่อไทยยัง อดห่วงไม่ได้ คือการไม่มีชื่อนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช. เป็นรัฐมนตรี ตามที่เคยให้สัญญากันไว้ก่อนหน้า

กรณีนายจตุพร น่าจะสร้างความอึดอัดให้กับนายกฯ พอสมควร

ตามที่เล่ากันปากต่อปากคือมีรายการ "คุณขอมา" ผ่านทางนายกฯ ไม่ต้องการให้นายจตุพร มีตำแหน่งในรัฐบาล

ประกอบกับคนในเพื่อไทยบางส่วนมองว่า รัฐบาลกำลังเดินหน้าไปด้วยดี พูดคุยกับกลุ่มอำมาตย์และกองทัพ รู้เรื่องกว่าแต่ก่อน จึงไม่ควรสร้างเงื่อนไขขัดแย้งขึ้นมาใหม่

เพราะถึงนายจตุพร จะเป็นคู่หู นายณัฐวุฒิ แต่มีความมุทะลุมากกว่า เกรงว่าเข้ามาแล้วจะเป็น"สายล่อฟ้า" ให้รัฐบาล ทำให้"ปู 3" เสียกระบวนตั้งแต่แรกเริ่ม

จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม การที่นายจตุพรไม่มีชื่อเป็นรัฐมนตรี ย่อมนำพาความน้อยอกน้อยใจและไม่เข้าใจมาสู่เจ้าตัว และคนเสื้อแดงฐานเสียงใหญ่ของรัฐบาล

ดังนั้น การอธิบายให้กลุ่มคนเหล่านี้เข้าใจ ถึงเหตุผลความจำเป็นจึงเป็นสิ่งสำคัญเร่งด่วน เพื่อไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามฉวยโอกาส"เสี้ยม"จน บานปลาย

ที่สำคัญคือรัฐบาลต้องเร่งคลี่คลายคดี 99 ศพ คืนความยุติธรรมให้คนเสื้อแดง และผู้สูญเสียจากเหตุการณ์เดือนเม.ย.-พ.ค.53 ให้เห็นผล โดยเร็ว

ตรงนี้ต่างหากคือสัญญาประชาคมที่รัฐบาลให้ไว้กับคนเสื้อแดงและประชาชนผู้หนุนหลัง ที่ไม่อาจบิดพลิ้วได้และมีน้ำหนักเหนือกว่ากรณีนายจตุพร

เพราะนั่นหมายถึงเดิมพัน"จุดแตกหัก" ระหว่างรัฐบาลกับเสื้อแดงอย่างแท้จริง

หน้า 3