อโนตัปปบุรุษ

 


อโนตัปปบุรุษ


อโนตัปปบุรุษ
วันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2555 ปีที่ 22 ฉบับที่ 8000 ข่าวสดรายวัน


อโนตัปปบุรุษ


ทิ้งหมัดเข้ามุม
คาดเชือก คาถาพัน



เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมานี้เอง ท่านอดีตนายกสมาคมสถาปนิกสยาม คุณชวพงศ์ ชำนิประศาสน์ เขียนเรื่องศิลปะไทยเอาไว้ในคอลัมน์ "คติ-สัญลักษณ์" ของข่าวสดนี้เอง อธิบายเรื่องกิเลสมูล 3 ประการ อันได้แก่ โลภะ โทสะ โมหะ



แล้วใช้อรรถาธิบายของโบราณาจารย์ที่ขยายความกิเลสเป็น 10 ประการ



มาติดใจเอาข้อสุดท้ายที่ว่าด้วย "อโนตัปปะ" หรือความไม่สะดุ้งกลัวต่อการทุจริต



ตรงกันข้ามกับโอตัปปะ หรือความเกรงกลัวต่อบาปที่เรารู้จักกันดีนั่นเอง



ด้วยภาษาบาลีอัน แหว่งวิ่น เลยถือโอกาสเติมปัจจัยเข้าไปหลังคำ อโนตัปปะกลายเป็น "อโนตัปปบุรุษ" หรือผู้ที่ ไม่สะดุ้งกลัวต่อบาปต่อความทุจริต



เพราะไม่กี่วันที่ผ่านมานั้น อโนตัปปบุรุษออกมาลอยหน้าลอยตากันให้ว่อน



ประเภทบงการฆ่าแล้วยังมีหน้ามาบอกว่าการฆ่านั้นชอบธรรมแล้วบ้าง หรือตัวเองไม่ได้สั่งให้ฆ่า แต่ว่าไม่รับรู้ว่าผู้รับคำสั่งทำอะไรบ้าง



หรือประเภทลูกขุนพลอยพยัก นายว่าขี้ข้าพลอย ที่ออกมาช่วยกลบช่วยเกลื่อนอาชญากรรม โดยการบิดเบือนความจริงบ้าง



ไปจนกระทั่งถึงสงสารฝ่ายฆ่าแต่ว่าไม่สงสารคนตายหรือครอบครัวของเขาที่อยู่ข้างหลังบ้าง



เออหนอ-ทำไปได้



ถ้าสะดุ้งกลัวต่อบาปต่อความทุจริต จะกล้าทำอย่างนี้ได้ลงคออย่างไร



เมื่อไม่สะดุ้งกลัวต่อบาปต่อความทุจริตเสียแล้ว ก็พร้อมที่จะทำบาปพร้อมจะประพฤติทุจริตต่อไปได้เรื่อยๆ



โดยไม่สนใจไม่คำนึงถึงผลแห่งการกระทำของตน ว่าจะไปกระทบกระเทือนถึงผู้อื่นหรือสังคมในวงกว้างอย่างไรบ้าง



แต่ในอีกแง่หนึ่ง ยิ่งดื้อดึงยิ่งตะแบงต่อไปก็เหมือนเปลื้องเปลือยตัวเองต่อหน้าธารกำนัล



เห็นกันหมดว่าสูงต่ำดำขาวสั้นยาวขนาดไหน



เห็นไปถึงหัวจิตหัวใจนั่นเลย



เห็นแล้วชวนให้ถึงบางอ้อว่า



อโนตัปปะหน้าตาเป็นอย่างนี้นี่เอง


หน้า 6



// //
Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.