ซามูไรเสียบไส้กรอก ซิ่ง TOYOTA GT86 ที่เยอรมัน (ตอนที่3)
 


ซามูไรเสียบไส้กรอก ซิ่ง TOYOTA GT86 ที่เยอรมัน (ตอนที่3)


ซามูไรเสียบไส้กรอก ซิ่ง TOYOTA GT86 ที่เยอรมัน (ตอนที่3)

ตอนสุดท้ายกับการทดสอบ Toyota GT86 ที่ประเทศเยอรมัน สปอร์ตคาร์คันล่าสุดจากค่ายสามห่วงบนความร้อนแรงของรูปลักษณ์ และสมรรถนะของเครื่องยนต์สูบนอน 200 แรงม้า...

09.15 วันอังคารที่ 9 ตุลาคม 2555 บริเวณหน้าโรงแรม Hyatt Regency Koln ท่ามกลางอุณหภูมิอันเย็นยะเยือกเพียงแค่ 8 องศาเซลเซียส รถ Toyota GT86 ทั้ง 19 คัน จอดรอผู้สื่อข่าวของไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ ไต้หวันและเกาหลีใต้ นี่คือวันสุดท้ายของการทดสอบอันเข้มข้นบนแผ่นดินเยอรมนี โดยใช้เส้นทางรอบๆ เมืองโคโลญจน์ เป็นการขับขี่ทางไกลบนแผ่นดินยุโรปครั้งแรกของผม และพอดิบพอดีกับการเฉลิมฉลองครบรอบ 75 ปีของการก่อตั้ง Toyota Motor ในประเทศญี่ปุ่น รวมถึงวาระครบรอบ 50 ปี สำหรับการดำเนินงานของ Toyota Motor ในประเทศไทย

แรงม้า 200 ตัวไม่ใช่จุดขายที่จะเอาไว้โม้กับลูกค้าที่ให้ความสนใจตัวตนของรถ 86 เครื่องยนต์สูบนอนแบบหายใจเองโดยไม่พึ่งระบบเอาเปรียบเชิงกลอย่างซุปเปอร์ชาร์จหรือเทอร์โบแบบใดทั้งสิ้น ผมเลือกรถ GT86 คันสีดำ เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด เป็นรถคันเดิมที่ใช้ขับทดสอบในสนามบินเมื่อวันก่อน ความคุ้นชินกับเกียร์อัตโนมัติทำให้มันง่ายต่อการขับทดสอบบนถนนในเยอรมนี ซึ่งมีตำแหน่งของการขับที่แตกต่างกับประเทศไทยอย่างสิ้นเชิง ในทวีปยุโรปส่วนมากจะขับรถคนละด้านกับบ้านเรา มีเพียงแค่อังกฤษเท่านั้นที่ขับรถพวงมาลัยขวา ส่วนประเทศอื่นๆ ที่บริษัทรถยนต์ชอบนำรถไปทดสอบอย่างประเทศสเปน โปรตุเกส ออสเตรีย หรือเยอรมนี มีตำแหน่งการควบคุมพวงมาลัยที่ด้านซ้ายทั้งหมด ทำให้ผมต้องใช้ความระมัดระวังเพิ่มมากขึ้นเป็นพิเศษเมื่อต้องเปลี่ยนช่องทาง เลี้ยวหรือกลับรถบนถนนสาธารณะในเยอรมนี รถ Toyota GT86 มีตัวถังที่ค่อนข้างสั้น ฝากระโปรงด้านหน้าออกแบบให้ต่ำมากกว่าปกติ เพื่อการกะระยะที่แม่นยำ เกิดจากการวางเครื่องยนต์สูบนอนที่ต่ำกว่าเครื่องยนต์ทั่วไป และหลังจากออกมาจากตัวเมืองโคโลญจน์ได้ไม่นาน ความรู้สึกกำลังบอกผมว่าเจ้า GT86 มีพวงมาลัยที่เบาสบายและให้ความคล่องแคล่วว่องไวยามเปลี่ยนทิศทางได้ดีสมกับที่ Tada คุยเอาไว้จริงๆ

เครื่องสูบนอน FA-20 ที่ประจำการอยู่ใน GT86 หากเป็นรุ่นเกียร์ธรรมดาจะให้สุ้มเสียงที่เร้าใจมากกว่ารุ่นเกียร์อัตโนมัติ ผมค่อนข้างแปลกใจอยู่เหมือนกันว่าทำไมทำออกมาไม่เหมือนกันทั้งๆ ที่เป็น เครื่องยนต์เดียวกันแต่แตกต่างกันแค่ระบบส่งกำลังเท่านั้น อาจเป็นได้ว่าสำหรับคนที่ชอบยัดเกียร์เองต้องการอารมณ์ที่ดิบและดุดันมากขึ้น วิศวกรของ Toyota และ Subaru จึงลงมือปรับตั้งเสียงของท่อระบายไอเสียในรุ่นเกียร์ธรรมดาให้มีความต่างกันอย่างสิ้นเชิง เครื่องยนต์ตัวนี้มีเสียงการทำงานเหมือนๆ กันกับเครื่องสูบนอนทั่วไป แต่ที่รอบสูงๆ มันจะดังเร้าใจจนใครบางคนต้องกดคันเร่งลงไปอีกเพื่อให้มันดังมากยิ่งขึ้นเพื่อความสะใจ พวกช่างเครื่องยนต์รู้ใจนักขับ ด้วยการออกแบบให้แรงบิดสูงสุดอยู่ใกล้กับระดับ 6,400-7,000 ต่อนาที แต่จังหวะของการเร่งแซงเมื่อขับในดินแดนที่ขึ้นชื่อว่าขับรถกันเร็วที่สุดในยุโรปบนทางไฮเวย์ออโต้บาห์นที่ไม่มีการจำกัดความเร็วนั้น คงต้องกะระยะกันให้พอดี เพราะรถยนต์แต่ละคันที่วิ่งอยู่ในช่องจราจรซ้ายสุด ส่วนใหญ่แล้วมีม้าเกินสามร้อยตัวแทบทั้งสิ้น รถที่วิ่งอยู่ในเลนซ้ายจะใช้ความเร็วสูงมาก พุ่งทะยานมาในช่องทางด้านซ้ายสุด โดยใช้สปีดไม่มีต่ำกว่า 200-250 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแม้แต่คันเดียว ทำให้ผมต้องคอยมองกระจกมองข้างอยู่ตลอดเวลาด้วยความระแวง

ช่วงล่างที่เฉียบคม เบรกและลิมิเต็ดสลิปที่ปรับเซตมาอย่างลงตัวสำหรับสนามแข่งของ GT86 ไม่มีประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้นบนทางด่วนออโต้บาห์น บนสถานที่แห่งความเร็วนี้ คุณต้องการสมาธิในการควบคุมพวงมาลัยสำหรับประคองรถเมื่อทำความเร็วในระดับใกล้เคียงกับความเร็วสูงสุดเท่าที่รถของคุณจะสามารถทำได้ ผมวิ่งอยู่ในเลนกลางที่สปีด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่กลับโดนสวนที่เลนซ้าย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรถ Audi RS4 Avan หรือไม่ก็ Porsche 911 Carrera S รวมถึง BMW ตระกูล M ที่ไล่กวดกันมาเป็นงูกินหาง การโฉบเข้าออกแซงรถช้าแล้วกลับมาอยู่เลนเดิมโดยไม่ไปรบกวนรถในเลนซ้ายสุด รถ GT86 ทำได้อย่างน่าชมเชยด้วยความมั่นคงยามเปลี่ยนทิศทาง คนเยอรมันเป็นชาติที่มีระเบียบวินัยสูง แม้จะขับรถด้วยความเร็วมากกว่าชาติอื่นๆ แต่ด้วยทักษะและสมรรถนะของรถที่ใช้งานทำให้การขับรถเร็วบนออโต้บาห์นกลายเป็นเรื่องปกติสำหรับคนเยอรมัน แต่กลับกลายเป็นเรื่องที่น่ากลัวและไม่คุ้นชินสำหรับคนไทยบางคนแบบผมไปโดยปริยาย

ประตูคาร์บอนกับฝากระโปรงเคฟล่าห์ ซึ่งเป็นชุดแต่งจะลดน้ำหนักลงไปได้อีก 100 กิโลกรัม รวมถึงชิ้นงานแอร์โรพาร์ตที่สำนักแต่งนับสิบในญี่ปุ่นเร่งระดมกันออกวางขาย เพื่อเอาอกเอาใจเจ้าของ GT86 กับ BRZ ไม่ว่าจะเป็นล้อ 18 นิ้วน้ำหนักเบาพร้อมยางแก้มเตี้ยที่ดูแล้วไม่น่าจะรอดหากใส่ไม่ยั้งบนถนนในกรุงเทพฯ หางหลังทรงอลังการ ดุดันแต่กลับทำให้การเข้าโค้งแย่ลงเพราะแรงกดที่มากจนไม่มีความสัมพันธ์กับแรงม้า เมื่อคุณต้องใช้งานมันทุกวัน รถเดิมๆ คือคำตอบท่ี่ดีที่สุดสำหรับเจ้าของ GT86 คนใหม่ แต่สำหรับลูกค้าที่ซื้อในประเทศไทยนั้น ผมคิดว่ามันไม่ได้เป็นรถยนต์คันเดียวที่จอดอยู่ในบ้านอย่างแน่นอน การเสริมหล่อที่ถูกต้องบน GT86 จะทำให้สมรรถนะของมันเพิ่มขึ้นในระดับที่น่าพอใจ โดยไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับการปรับจูนเครื่องยนต์ ซึ่งอาจตามมาด้วยปัญหานานับปการ Toyota ค่ายผู้ผลิตและ Tada วิศวกรนักแข่งผู้พัฒนาตัวรถ GT86 ก็ยังฉลาดพอที่ีจะไม่ปล่อยรุ่นเครื่องยนต์เทอร์โบออกมาเร็วนัก และใช้เวลาในช่วงแรกๆ นี้ศึกษาเฝ้าดูสำนักแต่งท่ี่นำเอาระบบอัดอากาศเข้าไป เพิ่มแรงม้าให้กับเครื่อง FA-20 แล้วค่อยพิจารณาดูว่าของค่ายใดจะเหนียวกว่ากัน หลังจากนั้นอาจมีการรวบรวมประสิทธิภาพของระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบที่แข็งแรงทนทานมาลงใน GT86 ก็อาจมีความเป็นไปได้สูงมาก

ฝรั่งตาน้ำข้าวที่ชอบดูถูกงานภายในของรถจากเอเชียคงต้องสูญเสียประสาทสัมผัสที่ดีอย่างแน่นอนหากพูดวิจารณ์ถึงพลาสติกภายในของ GT86 ไปในทางที่ไม่ดีนัก งานตกแต่งห้องโดยสารของ Toyota ในยุคนี้ดีขึ้นมากเมื่อเปรียบเทียบกับรถเมื่อสี่ห้าปีก่อน ปุ่มสวิตช์ที่ใช้งานได้ง่ายของ GT86 มีรูปแบบคล้ายกับรถเยอรมันบางยี่ห้อ มาตรวัดรอบตัวเลข 9,000 กับเข็มวัดสีแดง ไฟเตือนการเปลี่ยนเกียร์ หนังที่ใช้หุ้มเบาะและพวงมาลัย พลาสติกคอนโซลกลางที่ทำเลียนแบบลายเคฟล่าห์ คันเกียร์ออโต้หุ้มหนังที่มีหน้าตาคล้ายกับคันเกียร์ธรรมดา แผงประตูทรงอวกาศ แป้นคันเร่ง เบรก ที่พักเท้าทำจากอัลลอยสีเงินเจาะรูลดน้ำหนักแบบซิ่งเต็มพิกัด ไม่น่าเชื่อว่าราคา 2.7 ล้านบาทสำหรับรุ่นเกียร์อัตโนมัติพร้อมชุดแต่ง ซึ่งเป็นรุ่นสูงสุดของ Toyota GT86 เมื่อซื้อในประเทศไทย จะสามารถซื้อรถ Lexus IS-F สปอร์ตซีดานเครื่อง V6 350 แรงม้าในประเทศญี่ปุ่นด้วยราคาที่เท่ากัน ภาษี 300% ที่เจ้าของใหม่หลายคนยอมจ่าย ต้องใช้เวลานาน คอยหลายเดือน จึงจะได้ควบเจ้าสปอร์ต FR เครื่องยนต์วางหน้า ขับเคลื่อนล้อหลังคันล่าสุดจาก Toyota นับว่าเป็นการรอคอยที่ค่อนข้างทรมานกันเลยทีเดียว

ผมขับตามรถคันนำอีกสองคันพลางเหลือบมองไปรอบๆ ห้องโดยสารเมื่อขบวนลดความเร็วลง เพื่อเลี้ยวเข้าสู่ท่าจอดเรือเฟอร์รี่ข้ามแม่น้ำไรน์ ลืมการนั่งที่เบาะหลังไปได้เลยหากคุณตัวสูงเกิน 155 cm มันเหมาะสำหรับเด็กเล็กหรือวางกระเป๋าเดินทางมากกว่าจะใช้นั่งโดยสารบนระยะทางไกลๆ หากคุณไม่ใช่พวกคนแคระหรือโยคีที่นิยมการนั่งดัดตัวเอง เบาะหลังที่สวยงามแต่นั่งโดยสารลำบากของ GT86 ใหญ่กว่า Porsche Cayman รวมทั้ง Audi TT แต่ก็ยังคงนั่งได้อย่างลำบากยากเย็นสำหรับคนรูปร่างปกติอยู่ดี หลังจากรถทั้ง 19 คัน ลอยละล่องอยู่กลางแม่น้ำได้ไม่นาน เรือเฟอร์รี่ที่พวกเราโดยสารมาก็เข้าเทียบท่าที่ฝั่งของเมือง เส้นทางต่อไปจะเป็นทางขึ้นลงภูเขาและเนินเขาที่ไม่สูงชันมากนัก รถทดสอบทั้งหมดขึ้นจากท่าจอดเรือมุ่งหน้าผ่านเมืองชนบทเล็กๆ ที่สงบและงดงาม อุณหภูมิ 8 องศากับวิวทิวทัศน์ที่แปลกแยกแตกต่าง ใบไม้ใบหญ้าในเดือนตุลาคมเริ่มเปลี่ยนสีสันเพื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงหรือฤดูหนาวที่จะมาถึงในอีกไม่นานนับต่อจากนี้ ตึกรามบ้านช่องในยุโรปตะวันตกค่อนข้างปิดทึบและมีเพียงกระจกบานโตกับสีเทา ผมหักพวงมาลัยของ GT86 ด้วยความเพลิดเพลินไปตามเส้นทางในเมือง K?nigswinter กระจกบานคนขับถูกลดลงเพื่อให้หน้าได้สัมผัสกับลมเย็นๆ อย่างเต็มที่

เมื่อลองเปลี่ยนมาเป็นโหมดแมนนวลเพื่อใช้แป้นเปลี่ยนเกียร์หลังวงพวงมาลัยสำหรับการขับขึ้นทางลาดชัน อัตราทดที่ฉับไวของเกียร์อัตโนมัติแบบทอร์กคอนเวอร์เตอร์ พัฒนาโดยวิศวกรระบบส่งกำลังระดับแนวหน้าของ Subaru ให้การตัดต่อเกียร์ขึ้น-ลง ว่องไวไม่แตกต่างจากคู่แข่งแม้แต่น้อย DSG ซึ่งเป็นเกียร์คลัตช์คู่อาจได้รับความนิยมมากกว่าในรถสปอร์ตของยุโรป แต่เกียร์ออโต้ของ GT86 ทำงานได้รวดเร็วเท่ากัน ทอร์กคอนเวอร์เตอร์มีขนาดกะทัดรัด และน้ำหนักที่เบากว่าเกียร์แบบ DSG มาก เฟืองท้ายที่รับแรงบิดจากเพลาแทบจะไม่มีการสูญเสียแรงหมุนจากการออกแบบที่สมมาตร แป้นเปลี่ยนเกียร์ที่พัฒนามาจากรถแข่ง F1 ช่วยให้การขับรถสปอร์ตในทุกวันนี้สะดวกสบายมากกว่านั่งยัดเกียร์เอง มันเร็ว ไร้อาการกระตุกกระชาก แม้จะลากรอบลากเกียร์ไปจนสุด ไฟชิฟไลท์แจ้งเตือนการเปลี่ยนเกียร์ยังช่วยให้ตำแหน่งกับคาบเวลาของการเปลี่ยนอัตราทดด้วยนิ้วคุณเองมีความแม่นยำและว่องไวเหมาะสมกับการไต่ระดับ อัตราเร่ง มันเร็วจนพวกที่นั่งยัดเกียร์เองในรุ่นเกียร์ธรรมดายังต้องขอเปลี่ยนรถมาขับเกียร์ออโต้ในช่วงขากลับ

กระบอกสูบและระยะชักมีความสมมาตรเท่ากันแบบสแควร์ที่ 86 มิลลิเมตร ซึ่งทำให้ผมนึกถึงเครื่อง 3S-GE ที่วางอยู่ใน MR-2 รหัส SW20 รถสปอร์ตคันแรกในชีวิตที่ยังคงประทับใจทุกครั้งที่นึกถึง การที่ความกว้างของกระบอกสูบและระยะชักเท่ากันนั้น ส่งผลดีต่อการทำงานของเครื่องยนต์ มันช่วยลดอาการสั่นสะท้านได้ดีในระดับหนึ่ง เครื่องยนต์สูบนอนแบบสแควร์ FA-20 ยังสามารถทำงานได้อย่างมีเสถียรภาพมากขึ้น ให้แรงบิดที่ดีตั้งแต่รอบต่ำไปจนถึงรอบสูงสุด ส่วนแป้นคันเร่งไฟฟ้า Drive By Wire ค่อนข้างเบาไปนิดเมื่อเทียบกับสปอร์ตคาร์จากฝั่งยุโรป ในรุ่นเกียร์อัตโนมัติคันทดสอบ เพียงแค่เพิ่มน้ำหนักของฝ่าเท้าเล็กน้อย สมองกลเกียร์จะรับรู้แล้วจัดการลดเกียร์ให้หนึ่งหรือสองตำแหน่ง ตามองศาของแป้นคันเร่งที่มีเซ็นเซอร์ตรวจจับอยู่ มันอาจน่ารำคาญหากเกิดขึ้นกับรถบ้านแบบใช้ไปจ่ายกับข้าว แต่คันเร่งที่ไวมากของ GT86 เหมาะสมกับสภาพการณ์ในการควบคุมแบบสปอร์ตอย่างเหมาะเจาะทีี่สุดแล้ว

ไม่มีใครมาคอยนั่งคุมว่าคุณจะต้องทำโน่นนี่ตามสั่ง ไม่มีเสียงวิทยุติดต่อที่ดังเจี๊ยวจ๊าวทั้งวันเหมือนการขับทดสอบที่เมืองไทย ที่เยอรมนีมีเพียงแค่ผมกับ Toyota GT86 บนดินแดนที่แปลกแยกและแตกต่างจากบ้านเกิดโดยสิ้นเชิง GPS สีเหลืองหน้าตาประหลาดของทีมงาน TMAP ที่อ่านยังไงก็ไม่รู้เรื่องจนต้องพึ่งของติดรถ มันค่อนข้างน่ากลัวแต่เป็นประสบการณ์ที่ดีสำหรับการขับทดสอบบนเส้นทางที่ไม่มีความคุ้นชิน ในช่วงขับขึ้นเขาลงเนิน ผมทิ้งระยะความห่างจากรถนำออกไปอีกเพื่อความปลอดภัย ถนนที่เล็กมากทำให้ต้องเพิ่มความระมัดระวังและลืมเรื่องดริฟท์แบบเมื่อวานในสนามทดสอบไปได้เลย กำลังที่อยู่ในระดับกลางๆ ของ GT86 จำเป็นที่จะต้องใช้ระยะเพิ่มมากขึ้นในการสปีดตัวเองให้ถึงความเร็วที่เหมาะสำหรับการการสาดโค้ง เรี่ยวแรงของเครื่องยนต์แบบหายใจเอง แม้จะไม่มีการรอรอบเหมือนเครื่ิองยนต์ติดเทอร์โบ แต่กำลังเพียงแค่ 200 แรงม้า หากคุณจะดริฟท์เล่น ก็ต้องอัดมันให้เข้าสู่ย่านความเร็วที่ได้ระดับ และใช้เวลามากกว่ารถสปอร์ตพลังเทอร์โบอยู่บ้างพอสมควร เครื่อง FA-20 มีเสียงแหบแห้งแบบดิบๆ ที่รอบเครื่องยนต์ 5,000 และจะแผดเสียงสนั่นหวั่นไหวเมื่อใกล้ 7,400 รอบต่อนาที ซึ่งเป็นรอบเครื่องยนต์สูงสุด เสียงดูดอากาศของท่อไอดีดังชัดเจนเมื่อลดกระจกแล้วลองกระชากไต่ระดับความเร็ว ที่ 5,000 รอบ กำลังของมันจะพร้อมอย่างเต็มที่ในการเค้นแรงบิดไล่จากกลางไปหามาก เป็นรอบเครื่องยนต์ที่ผมใช้ตลอดทางขึ้นเขาลงห้วย โดยใช้เกียร์ต่ำและเปลี่ยนตำแหน่งเพียงแค่เกียร์ 2-3 เท่านั้น โหมดสปอร์ต แม้จะลากจนเครื่องพัง เกียร์ก็จะไม่เปลี่ยนให้นอกจากผู้ขับจะใช้นิ้วมือกดแป้นเปลี่ยนเกียร์ มันให้อารมณ์ทั้งเสียงคำรามและแรงจากการพุ่งทะยานได้ดีไม่น้อยหน้า Audi TT หรือแม้แต่ Mazda MX-5 นี่คือสิ่งที่ Toyoda ต้องการ และพวก Toyota ทำออกมาเนียนใช้ได้เลยทีเดียว

ม้า 200 ตัวกับน้ำหนักรวม 1240 กิโลกรัม มีความเหมาะสมและให้สัมผัสที่ดีในการควบคุม ความมีชีวิตชีวาของเครื่องสูบนอนและความแม่นยำของพวงมาลัยกับช่วงล่างทำให้ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเค้นเอาสมรรถนะสูงสุดของ GT86 ออกมาบ่อยๆ ผมไม่ต้องเร่งจนสุดกำลังเพื่อให้ได้รสชาติของความตื่นเต้นบนรถคันนี้ เพียงแค่ขับมันไปเรื่อยๆ บนถนน เร่งความเร็วบ้างเมื่อพบกับทางโล่งๆ และสนุกไปกับการยึดเกาะบนทางขึ้น-ลงเนินเขาด้วยตัวช่วย VSC กับยาง 215/45/R17 จาก Michelin ระบบรองรับที่ไม่แข็งเท่ากับ Subaru BRZ และจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำเตี้ย ทำให้การเลี้้ยวแทบจะไร้การโคลงตัว แม้จะเบรกแบบเต็มกำลัง พวงมาลัยสื่อสารได้ดี แม่นยำเที่ยงตรงและมีน้ำหนักที่เหมาะสม การขับทดสอบในวันสุดท้ายที่เยอรมนีจบลงอย่างมีความสุข เส้นทางที่สวยงามและการต้อนรับดูแลรวมถึงการจัดงานอันไร้ที่ติของ TMAP Toyota Motor Asia Pacific และ Toyota Motor Thailand สร้างความประทับใจสำหรับการทดสอบ Toyota GT86 ให้กับนักข่าวจากเอเชียทุกคน นี่คือรถสปอร์ตรุ่นล่าสุดจากค่ายสามห่วงที่จะเข้ามาสานต่อประวัติศาสตร์ของ Toyota ให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น รถ GT86 คือความลงตัวของรูปทรง น้ำหนักและการควบคุมที่พอดิบพอดี เข้าถึงได้ง่ายและเอื้อต่อการขับขี่ที่สนุก คุณสามารถกวาดท้ายรถได้ทุกเวลาเท่าที่ต้องการ GT86 ใช้ล้อและยางที่ไม่โตจนมากเกินไปส่งผลให้พวงมาลัยตอบสนองและสื่อสารได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งมันค่อนข้างหายากในสปอร์ตคาร์คู่แข่งที่เอาแต่พละกำลังมากจนลืมนึกถึงอารมณ์ของการขับขี่ ค่าย Toyota กำลังสื่อสารกับคนทั้งโลกให้เรียนรู้ว่า รถสปอร์ตเครื่องยนต์วางด้านหน้า-ขับเคลื่อนล้อหลังนั้นมีดีอย่างไร มันคือรถยนต์ที่เปิดโอกาสให้คนขับแสดงฝีมือมากกว่าที่จะใช้ระบบควบคุมการทรงตัวมาคอยชี้นำ เป็นจักรกลสปอร์ตสองประตูอีกคันที่เมื่อได้ขับแล้ว ยากที่จะลืมเลือนจริงๆ.

Toyota GT86 6AT Specifications
engine manufacturer.......................Toyota-Subaru
body type........................................2+2 seater fixed-head coup?
number of doors..............................2
designer...........................................Toyota
engine code....................................FA20
cylinders.........................................Flat 4
capacity..........................................2 litre1998cc (121.925cu in)
bore?stroke....................................86 ? 86mm 3.39 ? 3.39inbore/stroke ratio1
valve gear.......................................DOHC 4 valves per cylinder 16 Total valves
maximum power output................199.7PS(200bhp) (146.9kW) at 7000rpm
specific output................................98.6bhp/litre 1.62bhp/cu in
maximum torque............................205Nm(151ft?lb) (20.9kgm) at 6600rpm
specific torque................................102.6Nm/litre

sump...............................................Wet sumped
compression ratio............................12.5:1
fuel system.....................................direct petrol injection D4S By Toyota
bmep (brake mean effective pressure)1289.3kPa(187psi)

engine coolant................................Water
cylinder volume.............................499.5
aspiration........................................Normal
compressor......................................N/A
intercooler.......................................None
catalytic converter...........................Y
power-to-weight ratio......................157.6bhp/ton

engine position...............................front
longitudinaldrive wheels................rear wheel drive
steering...........................................rack & pinion PAS
turns lock-to-lock...........................
turning circle
front suspension.............................I.MS.
rear suspension...............................I.DW.
wheel size front..............................7J x 17
wheel size rear................................7J x 17
tyres front........................................215/45 R 17 87W Michelin primacy hp
tyres rear..........................................215/45 R 17 87W Michelin primacy hp
brakes f/r....................................... Disc Break ABS

gearbox...........................................6 speed automatic
top gear ratio...................................0.58
final drive ratio...............................4.10
wheelbase.......................................2,570 mm
track (front)....................................1,520 mm
track (rear).....................................1,540 mm
length.............................................4,240 mm
width..............................................1,775 mm
height.............................................1,285 mm
ground clearance.............................130 mm
length:wheelbase ratio....................1.65
kerb weight.....................................1250kg 2756lb
weight distribution..........................
fuel tank capacity............................50 litres11 UK Ga l13.2 US Gal

 

Arcom roumsuwan
E-Mail [email protected]
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom

 



// //

Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.