ซัดอดีตเลขาธิการ กอศ.เอี่ยวครุภัณฑ์ฉาว สั่งการทุกขั้นตอนลักษณะชงเองกินเอง
 


ซัดอดีตเลขาธิการ กอศ.เอี่ยวครุภัณฑ์ฉาว สั่งการทุกขั้นตอนลักษณะชงเองกินเอง


ซัดอดีตเลขาธิการ กอศ.เอี่ยวครุภัณฑ์ฉาว สั่งการทุกขั้นตอนลักษณะชงเองกินเอง


“ศักดา” พร้อมให้ข้อมูลอนุ กมธ.

เมื่อวันที่ 17 ต.ค. 2555 ที่ห้องประชุมคณะกรรมาธิการ อาคารรัฐสภา คณะอนุกรรมาธิการ คณะที่ 1 ในคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ เป็นประธาน ได้พิจารณาเรื่องร้องเรียนกรณีการจัดซื้อครุภัณฑ์ในโครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 2 ไทยเข้มแข็ง (เอสพี 2) ของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) โดยได้เชิญคณะกรรมการกำหนดคุณลักษณะเฉพาะ หรือสเปกครุภัณฑ์ เอสพี 2 ในปี 2552-2553 และผู้บริหารวิทยาลัยในสังกัด สอศ.มาให้ข้อมูล โดยนายพร้อมพงศ์เปิดเผยว่า ผอ.บางวิทยาลัย ระบุว่า เป็นคำสั่งของเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) ในขณะนั้น ที่สั่งให้ตั้งคณะกรรมการกำหนดสเปก มีการลงนามคำสั่ง รวมถึงคณะกรรมการการตรวจรับ และการตรวจรับก็มาจากส่วนกลางโดยวิทยาลัยไม่มีส่วนร่วมเลย เหมือนกับตั้งเองชงเอง และน่าจะกินเอง ซึ่งจากการรับฟังข้อมูลเห็นความผิดปกติชัดเจนโดยเฉพาะในปี 2553 และตนมองว่าครุภัณฑ์ในโครงการเอสพี 2 ของอาชีวะ มีการทุจริตกันอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย

นายพร้อมพงศ์กล่าวอีกว่า ในวันที่ 24 ต.ค.นี้ ตนจะเชิญนายศักดา คงเพชร รมช.ศึกษาธิการ ที่ดูแล สอศ. รวมทั้งคณะกรรมการที่สอบสวนเรื่องนี้อยู่มาให้ข้อมูล และผมจะลงลึกไปถึงบริษัทเอกชน โดยเชิญกระทรวงพาณิชย์ ที่ทำเรื่องทะเบียนการค้ามาดูข้อมูลว่าบริษัทเหล่านี้มีตัวตนอย่างไร บางบริษัทมีขนาดเล็กแต่ทำไมได้งบประมาณไปเยอะ อาจจะต้องให้กรมสรรพากร สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และเชิญกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ในฐานะที่ตรวจสอบเรื่องนี้ไปแล้วส่วนหนึ่งมาชี้แจงด้วย เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย พร้อมลงไปตรวจสอบในพื้นที่

“ผมมองว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นการทุจริต และน่าจะเป็นขบวนการตั้งแต่ข้าราชการ ถึงนักการเมือง ซึ่งคณะอนุกรรมาธิการฯ ก็มีการพูดชื่อนักการเมืองมาแล้ว แต่ขอปิดไว้ก่อน รอให้มีหลักฐานชัดเจนและเชื่อมโยง จากนั้นเมื่อมีข้อสรุปชัดเจนแล้วก็จะมีการร้องเอาผิด ทั้งข้าราชการและนักการเมือง โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปส่ง กมธ.ป.ป.ช.ชุดใหญ่ได้ในอีก 60 วัน หรือ 2 เดือน เพราะมีข้อมูลเยอะ งบประมาณครุภัณฑ์อาชีวะ ตั้งแต่ปี 2552-2555 มีมากกว่า 5,300 ล้านบาท และน่าจะทุจริตตามที่มีการตรวจสอบเบื้องต้นถึงครึ่งหนึ่ง หรือ 2,000 กว่าล้านบาท ที่สำคัญยิ่งสาวก็ยิ่งเห็น หรือเรียกว่าน้ำลดตอผุด มีถึงการกลั่นแกล้งข้าราชการ โดยโยกย้ายด้วยความไม่เป็นธรรม เมื่อเปลี่ยนรัฐบาล ผอ.บางคนก็กล้าให้ข้อมูลและมองว่าได้รับความเป็นธรรมได้รับการเยียวยา”

ด้านนายศักดา คงเพชร รมช.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ตนและคณะกรรมการทุกคณะที่ทำการตรวจสอบเรื่องนี้พร้อมที่จะเดินทางไปให้ข้อมูลกับอนุกรรมการ ป.ป.ช. สภาผู้แทนราษฎร เนื่องจาก มีข้อมูลข้อเท็จจริงที่สามารถชี้แจงได้ในทุกประเด็น นอกจากนี้ในสัปดาห์หน้าตนจะทำหนังสือเพื่อส่งถึงอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อสอบถามความคืบหน้าในการดำเนินการตรวจสอบกรณีดังกล่าวด้วย.



// //

Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.