ชงจัดระบบเฝ้าระวังใช้แท็บเล็ต ห่วงเทคโนโลยีทำลายสมองเด็กเล็ก
 


ชงจัดระบบเฝ้าระวังใช้แท็บเล็ต ห่วงเทคโนโลยีทำลายสมองเด็กเล็ก


ชงจัดระบบเฝ้าระวังใช้แท็บเล็ต ห่วงเทคโนโลยีทำลายสมองเด็กเล็ก

นักวิชาการชี้เทคโนโลยีทำลายสมองไม่เหมาะเด็กเล็ก เตรียมจัดระบบเฝ้าระวังการใช้แท็บเล็ต ไม่สอนเด็กเข้าเว็บไซต์ไม่เหมาะสม...

เมื่อวันที่ 5 ก.ย.ที่อาคารรัฐสภา 2 คณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคมและกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการและผู้ด้อยโอกาส วุฒิสภา จัดเสวนา “แจกแท็บเล็ต ป.1 ลดหรือเพิ่มปัญหาสังคม” นายวรพัฒน์ ทิวถนอม รองปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่า กรณีที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าแท็บเล็ตที่แจกเด็ก ป.1 สามารถเข้าถึงเว็บไซต์ลามกอนาจารได้ ทั้งที่รัฐบาลระบุว่ามีการบล็อกแล้วนั้น อยากตั้งข้อสังเกตว่าเด็ก ป.1 มีความบริสุทธิ์ที่คงไม่สามารถเข้าถึงเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมได้หากผู้ใหญ่ไม่สอน จึงอยากให้ทุกส่วนช่วยกันเพื่อให้เกิดการใช้แท็บเล็ตเป็นสื่อการเรียนการสอนตามวัตถุประสงค์ ส่วนการบล็อกที่ผ่านมาไอซีทีพยายามทำ แต่ก็มีกลวิธีทางเทคนิคให้สามารถเข้าได้อีก ดังนั้นสิ่งสำคัญจึงอยู่ที่ผู้ใช้

ด้าน พญ.จันทร์เพ็ญ ชูประภาวรรณ นายกสมาคมนักวิจัยเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว กล่าวว่า การใช้เทคโนโลยีทันสมัยอัตโนมัติมากเท่าไร สิ่งที่สูญเสียคือสมอง ดังนั้นเด็กปฐมวัยควรเรียนรู้จากการสัมผัสจริงโดยการใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 6 เพื่อให้เด็กมีพัฒนาการตามวัยที่เหมาะสม ไม่ใช่เรียนรู้จากของปลอมที่มาจากสื่อที่ได้เพียงสัมผัสภาพและเสียง ดังนั้นเทคโนโลยีทุกชนิดจึงไม่เหมาะกับเด็กปฐมวัย

ขณะที่ รศ.นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ หน.ศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก กล่าวว่า แท็บเล็ตไม่ได้ทำลายเฉพาะลูกคนรวย แต่ยังขยายไปถึงลูกคนจน และปัญหาใหญ่เวลานี้คือการใช้เวลา เพราะผลวิจัยที่พบ ภาวะเล่นเกมของเด็กหนักขึ้นเรื่อยๆ ไม่เฉพาะระดับมัธยมแต่ลามไปถึงประถม พ่อแม่บางชุมชนยังมองว่าร้านเกมมีความปลอดภัยซึ่งน่าห่วงอย่างยิ่ง และเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก จนทำให้สมาคมจิตแพทย์ทั่วโลกได้วินิจฉัยและจะประกาศจัดเป็นกลุ่มโรคติดเกม ติดอินเทอร์เน็ตในปี 2556

ทั้งนี้ จึงขอเสนอให้มีระบบเฝ้าระวังการใช้แท็บเล็ตในเด็กเพื่อไม่ให้นำไปสู่การเข้าเว็บไซต์ที่ไม่พึงประสงค์หรือเล่นเกมออนไลน์ โดยจัดระบบให้เด็กที่อายุต่ำกว่า 12 ปี ลงทะเบียนการใช้ผ่านเลขประจำตัวประชาชน และกำหนดให้เล่นเกมได้ไม่เกิน 2 ชั่วโมงต่อวัน และจำกัดวงเงินในการซื้อขายออนไลน์

ส่วน นางอรุณี อัศวภาณุกูล ผู้แทนผู้ปกครองนักเรียน ป.1 ที่ได้รับแท็บเล็ต กล่าวว่า สิ่งที่กังวลกับการที่เด็กได้ใช้แท็บเล็ต คือ เรื่องสายตา ความปลอดภัย ความรับผิดชอบหากเครื่องมีปัญหา และพัฒนาการของลูก อย่างไรก็ตามคิดว่าครูผู้สอนมีความสำคัญอย่างยิ่งว่าจะสอนอะไรให้เด็กเรียนรู้อย่างเหมาะสม.



// //

Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.