กว้างขวาง สะดวกสบาย และเต็มไปด้วยรูปแบบของความเป็นสปอร์ตอเนกประสงค์ที่ชัดเจน การขับขี่ที่สนุกสนาน คล่องตัวว่องไวตามแบบฉบับรถสปอร์ตทุกประการ  สิ่งเหล่านี้ได้รวบรวมอยู่ในคาเยนน์ จีทีเอส (Cayenne GTS) ใหม่ล่าสุดคันนี้ สมรรถนะเครื่องยนต์ที่เน้นย้ำความเป็นสปอร์ต แรงขับของเครื่องยนต์ที่เพิ่มมากขึ้น การพัฒนาพละกำลังให้มีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น
 และตัวถังที่ได้รับการปรับเปลี่ยนให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น เพื่อลดแรงสั่นสะเทือนและเพิ่มความสะดวกสบายในยามขับขี่ให้มากที่สุด คุณลักษณะที่โดดเด่นเหล่านี้ได้ถูกส่งเข้าสู่ผู้โดยสาร เพื่อให้สัมผัสถึงทุกอรรถรสและเพิ่มความสุนทรีย์ในการขับขี่อย่างไร้ขีดจำกัด 
 จีทีเอส (GTS) ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อเป็นเสมือนรุ่นคาเยนน์ (Cayenne) หนึ่งรุ่นที่ออกมาคั่นกลางระหว่างรุ่นคาเยนน์ เอส (Cayenne S) และ คาเยนน์ เทอร์โบ (Cayenne Turbo) หากแต่เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ออกมาเพื่อให้สัมผัสถึงความเป็นสปอร์ตที่แท้จริง คาเยนน์ จีทีเอส (Cayenne GTS) ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม โดยเจเนอเรชันที่แล้วมียอดขายที่สูงถึง 15,766 คัน ซึ่งสูงถึง 17% สำหรับยอดขายของคาเยนน์ (Cayenne) ทั้งหมดเลยทีเดียว
 ปอร์เช่ คาเยนน์ จีทีเอส ใช้เครื่องยนต์ขนาด 4.8 ลิตร V8 มาพร้อมกับพละกำลังถึง 420 แรงม้า (309 กิโลวัตต์) ระบบการทรงตัว Porsche Traction Management (PTM) ที่มาพร้อมกับการขับเคลื่อนสี่ล้อ   ระบบส่งกำลังผ่านเกียร์ Tiptronic S 8 จังหวะ ให้อัตราเร่งจาก 0 - 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง
 ทำได้ในเวลาเพียงแค่ 5.7 วินาที   สามารถทำความเร็วสูงสุด 261 กิโลเมตร/ชั่วโมง แม้จะให้พละกำลังดุดัน แต่ให้อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงตามรูปแบบการขับขี่ NEDC อยู่ที่ 10.7 ลิตร/100 กิโลเมตร  ขณะเดียวกันยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์หรือ CO2 อยู่ที่ 251 กรัม/กิโลเมตร เท่านั้น
 ความเป็นสปอร์ตของคาเยนน์ จีทีเอส (Cayenne GTS) ไม่เพียงแค่เด่นชัดออกมาผ่านประสิทธิภาพของเครื่องยนต์เท่านั้นหากแต่รูปลักษณ์ภายนอกยังโดดเด่นและเน้นความเป็นสปอร์ตได้อย่างชัดเจน ลักษณะที่เฉพาะของคาเยนน์ จีทีเอส(Cayenne GTS) ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างเด่นชัดทางด้านหน้าด้วยช่องดักอากาศขนาดใหญ่ เสมือนกับรุ่นคาเยนน์ เทอร์โบ
(Cayenne Turbo) ที่แยกกระจังหน้าออกจากช่องดักอากาศได้อย่างลงตัว
 ระบบไฟจากคาเยนน์ เทอร์โบ ได้ถูกนำมาใช้กับรุ่นนี้เช่นกัน ระบบไฟกลางคืนจะสังเกตเห็นเด่นชัดด้วยไฟทางด้านหน้าที่ติดตั้งอยู่ที่ช่องดักอากาศทางด้านนอกและยังมีจุดไฟ LED สี่จุดในไฟหลักสำหรับไฟที่ใช้ในตอนกลางวันอีกด้วย ระบบไฟเพื่อความคล่องตัว Porsche Dynamic Light system (PDLS) ได้รับการติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานให้กับ คาเยนน์ จีทีเอส (Cayenne GTS) นี้ด้วยเช่นกันระบบนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบไฟ Bi-Xenon lighting system ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยเพิ่มความคล่องตัวและความมั่นคงของไฟในยามเข้าโค้ง ควบคุมไฟโดยความเร็วของรถอีกด้วย
 คาเยนน์ จีทีเอส เจเนอเรชันใหม่ล่าสุดนี้จะมาพร้อมกับเครื่องเสียงและระบบสื่อสารชั้นนำที่ครบครัน ระบบเสียง Bose Surround Sound System คือระบบเสียงที่สามารถเลือกติดตั้งได้และจะมาพร้อมกับลำโพงถึง 14 ตัว พร้อมด้วยกำลังขับที่สูงถึง 200 วัตต์จากซับวูฟเฟอร์ คลาส D และมีเครื่องขยายเสียงหรือ Amplifier ถึง 9 ช่องทาง และมีกำลังขับโดยรวมถึง 585 วัตต์ หรือจะเลือกไฮเอนด์อย่างชุดระบบเครื่องเสียงชั้นนำอย่าง Burmester High-End Surround Sound system จะมาพร้อมกับเสียงที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพจากลำโพงถึง 16 ตัว ซับวูฟเฟอร์มีกำลังขับถึง 300 วัตต์ แบบ คลาส D เครื่องขยายเสียงที่มีกำลังขับโดยรวมมากกว่า 1,000 วัตต์