ณัฏฐ์ ณัฐนิธิการัชต์สัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัท เสิ่นเจิ้น สโคป ไซแอนทิฟิก ดีเวลลอปเมนต์  จำกัด  ผู้ผลิตแท็บเลต ป.1 ตามโครงการคอมพิวเตอร์มือถือสำหรับนักเรียนทุกคน (One Tablet PC Per Child)    มีการเซ็นสัญญาแบบสายฟ้าแลบ กับ บริษัท ไทยร่วมค้า เดอะซิสเต็มส์ จำกัด     หรือที่รู้จักกันดีในนามของ "แอดไวซ์  ดิสทริบิวชั่น"   ให้ดำเนินการจัดทำศูนย์ซ่อมแท็บเลตป.1  จำนวน 30 แห่ง  ใน 30 จังหวัดทั่วประเทศ  ตามสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง
เบื้องหน้าเบื้องหลัง การเซ็นสัญญาครั้งนี้เป็นอย่างไรนั้น "ฐานเศรษฐกิจ" ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ "ณัฏฐ์ ณัฐนิธิการัชต์" กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยร่วมค้า เดอะซิสเต็มส์ จำกัด ผู้จำหน่ายสินค้าไอที ทั้งค้าปลีกและค้าส่งภายใต้แบรนด์ "แอดไวซ์  ดิสทริบิวชั่น"  มาถ่ายทอดดังนี้  
 +++เผยความสัมพันธ์"เสิ่นเจิ้น สโคป"
 สำหรับความสัมพันธ์กับ  บริษัท เสิ่นเจิ้น สโคป ไซแอนทิฟิก ดีเวลลอปเมนต์  จำกัด    หรือ สโคป   นั้น หลังจากที่เสิ่นเจิ้น ได้เป็นผู้ผลิตแท็บเลตให้กับเด็กป. 1  บริษัทได้ติดต่อเข้าไปเพื่อขอขายแท็บเลตแบรนด์ "สโคแพด" ในไทย     โดยมองว่าน่าจะมีโอกาสทำตลาดได้อีกมาก   เนื่องจากยังมีเด็กชั้นอื่นทั้งป.2  ป.3  และป.4   หรือ มัธยม   ที่ต้องการอยากใช้งานแท็บเลต    
 หลังจากที่เสิ่นเจิ้น สโคป   ได้พยายามหาพาร์ตเนอร์ มาช่วยเป็นศูนย์ซ่อมแท็บเลตเด็ก ป. 1  มาระยะหนึ่งแต่ไม่สามารถหาได้    โดยเขาบอกกับเราว่าเจ้าอื่นคิดราคาสูงกว่างบประมาณที่มีอยู่    เสิ่นเจิ้น สโคป  เลยติดต่อมาที่เราเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2555   เพื่อให้เราช่วยเป็นศูนย์ซ่อมแท็บเลตเด็ก ป.1   และให้เราเข้าไปเซ็นสัญญาวันที่ 9  สิงหาคม 2555  ที่กระทรวงไอซีที   โดยที่เราไม่ทราบมาก่อนว่า   เป็นวันครบกำหนด 90 วัน ตามสัญญาจัดซื้อจัดจ้างแท็บเลต ป.1  ที่เสิ่นเจิ้น สโคป  เซ็นไว้กับกระทรวงไอซีที
 +++เซ็นแลกขายแท็บเลต"สโคแพด"
 อย่างไรก็ตามเราได้ดำเนินการเซ็นสัญญา เป็นศูนย์ซ่อมให้กับทางเสิ่นเจิ้น สโคป   เพราะเราได้ตกลงเป็นพาร์ตเนอร์กับเสิ่นเจิ้น สโคป ไปแล้ว  โดยจะเริ่มนำโปรดักต์ "สโคแพด" เข้ามาทำตลาดอีก 2 เดือนข้างหน้า    ซึ่งหากโครงการแท็บเลตเด็กป.1 ไม่มีบริการหลังการขายที่ดี  ก็อาจมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่น  และภาพลักษณ์ของแบรนด์   อีกทั้งยังมองว่าหากแท็บเลต ป.1 ตามโครงการคอมพิวเตอร์มือถือสำหรับนักเรียนทุกคน เป็นโครงการระดับประเทศ ไม่มีศูนย์ให้บริการก็อาจส่งผลกระทบกับเด็กและการศึกษา     
 นอกจากนี้เรายังมองว่ามีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานการให้บริการอยู่แล้ว   ทั้งระบบขนส่งและกระจายสินค้า ที่มีการขนส่งสินค้าไปยังสาขาร้านแอดไวซ์ 140 ทั่วประเทศทุกวันอยู่แล้ว และระบบการให้บริการซ่อม   ซึ่งปกติเราให้บริการซ่อมโน้ตบุ๊กกับลูกค้าอยู่แล้ว   ซึ่งการซ่อมคงไม่มีอะไรแตกต่างจากแท็บเลต
 ทั้งนี้ภายใต้สัญญากับทางเสิ่นเจิ้น สโคป  เราจะต้องเป็นผู้ดำเนินการซ่อมแท็บเลตป.1 เป็นเวลา 2 ปี    และจะต้องดำเนินการจัดตั้งศูนย์ซ่อม 30 แห่ง  ใน 30 จังหวัดทั่วประเทศ  ภายหลังเซ็นสัญญา 14 วัน    โดยเสิ่นเจิ้น สโคป  จะเป็นผู้ดำเนินการจัดส่งอะไหล่และชิ้นส่วนให้ทั้งหมด    ซึ่งในการให้บริการซ่อมนั้นจะต้องดำเนินการซ่อมให้แล้วเสร็จภายใน 5 วันทำการ    โดยการขอรับบริการนั้นผู้ปกครอง  หรือ เด็ก อาจเป็นคนส่งซ่อมเอง  หรือ อาจารย์ หรือโรงเรียน เป็นคนส่งซ่อมก็ได้   เนื่องจากบางโรงเรียนให้เด็กนำเครื่องกลับบ้าน  บางโรงเรียนไม่ให้เอากลับบ้าน
 ส่วนรายได้ที่ชัดเจนจากการเซ็นสัญญาเป็นผู้ให้บริการครั้งนี้คงไม่สามารถเปิดเผยได้     แต่เป็นตัวเลขที่ค่อนข้างน้อยมาก   ภายใต้สัญญา 2 ปี   เสิ่นเจิ้น สโคป  มีงบประมาณให้ไม่ถึง 10 ล้านบาท   อย่างไรก็ตามสิ่งที่บริษัทดำเนินการไปขณะนี้มากกว่าที่เซ็นสัญญากับ เสิ่นเจิ้น  สโคปเอาไว้       โดยขณะนี้บริษัทพร้อมใช้สาขาที่มีอยู่ทั้งหมด 114 แห่ง ครอบคลุม 67 จังหวัด เป็นจุดรับสินค้าที่ต้องการส่งซ่อม เพื่อจัดส่งไปยังศูนย์ซ่อมที่จัดตั้งขึ้นมา 30 ศูนย์     
 ขณะเดียวกันยังได้ทำการอบรมเจ้าหน้าที่ในสาขาทั้งหมด 114 แห่ง  ให้สามารถดูแลปัญหาด้านซอฟต์แวร์ได้     ซึ่งขณะนี้หากเครื่องมีปัญหาด้านซอฟต์แวร์ สามารถแก้ไขได้ทันที    ส่วนฮาร์ดแวร์นั้นขณะนี้ต้องรอทาง เสิ่นเจิ้น  สโคป  จัดส่งอะไหล่ และชิ้นส่วนมาให้
++++เร่งขาย"สโคแพด" อีก 2 เดือน
 บริษัทมีแผนนำแท็บเลตแบรนด์สโคแพด ของเสิ่นเจิ้น สโคป เข้ามาทำตลาดอีก 2 เดือนข้างหน้า   เบื้องต้นจะประกอบด้วย 3 รุ่น   แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปคุณสมบัติ หรือสเปก  และราคาแน่นอน    โดยมีรุ่นขนาดหน้าจอ 7 นิ้ว  1 รุ่น    ซึ่งในส่วนของคุณสมบัติใกล้เคียงกับแท็บเลตเด็กป.1   แต่ราคาสูงกว่าเล็กน้อย  โดยอาจจะใช้หน่วยประมวลผลแบบแกนเดียวความเร็ว 1.2  กิกะเฮิรตซ์   กล้องอาจเป็น 3 ล้านพิกเซล  ราคาอยู่ประมาณ  3,000-3,500 บาท   
 ส่วนอีก 2 รุ่นเป็นรุ่นจอขนาด 8 นิ้ว  ที่ใช้วัสดุ และสเปกเดียวกับรุ่น 7 นิ้ว  แต่อาจมีหน่วยความจำในการจัดเก็บข้อมูลสูงกว่า  โดยอาจเป็นแรม 16 กิกะไบต์  หรือ 32 กิกะไบต์   ส่วนราคาไม่น่าเกิน 4,000 บาท    และรุ่นจอขนาด 8 นิ้ว  ที่จะใช้วัสดุที่ดีกว่า จอมีความคมชัดมากกว่า   ราคาน่าจะอยู่ราว  4,000-5,000 บาท
 "แท็บเลตแบรนด์สโคแพด ราคาค่อนข้างถูก เมื่อเทียบผู้ผลิตรายอื่น     โดยราคาที่เสิ่นเจิ้น สโคป เคาะให้เราเป็นราคาหน้าโรงงาน ที่ไม่รวมค่าขนส่ง    เขาเป็นโรงงานผลิตจริง  ไม่มีความเชี่ยวชาญด้านการตลาด   แต่ยอมรับว่าผู้บริหารของเขามีความตั้งใจในการขยายตลาดมาในไทย    โดยเริ่มต้นจากการเข้ามาในโครงการแท็บเลตเด็ก ป.1   ซึ่งราคาที่ให้กับโครงการแท็บเลตเด็ก ป.1 นั้นถูกกว่าราคาที่เขาขายให้กับเราในฐานะตัวแทนจำหน่ายเสียอีก" 
อย่างไรก็ตามในการทำตลาดแท็บเลตแบรนด์สโคแพดในไทยนั้นเราได้พยายามเจรจาให้กับเสิ่นเจิ้น สโคปช่วยสนับสนุนงบด้านการตลาด   ซึ่งเขาก็จะให้งบการตลาดเรา   1% หากขายได้ตามเป้าที่กำหนด   ซึ่งก็ไม่มากแต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี