พายุฝนที่โหมกระหน่ำลงมาทุกวันในช่วงนี้ อาจทำให้หลายคนหงุดหงิดกับการเดินทาง โดยเฉพาะช่วงเวลาเลิกงานของเมืองหลวง ซึ่งท้องถนนคับคั่งไปด้วยรถเล็ก-ใหญ่ สวัสดีแคมปัส ฝากความห่วงใย นอกจากการรักษาสุขภาพ พกร่มหรือเสื้อกันฝนแล้ว อย่าลืมหาของกินเวลาเดินทางขณะรถติด เพราะอาการหิวอาจพานให้หงุดหงิดหนักยิ่งกว่าเก่า

สัปดาห์นี้ สวัสดีแคมปัส ยังคงทำตามหน้าที่ แอบดอดไปแถวอโศก อีกย่านหนึ่งที่รถราคับคั่ง แวะเข้าไปในมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร ก็พบกับนักศึกษาสาวจากวิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม จึงพามาให้ได้รู้จักกัน

น้องปรางค์ นางสาวปรางค์ชมพู เบญจานุวัตร ชั้นปีที่ 2 วิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม เอกภาพยนตร์และสื่อดิจิตอล มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร สาวยิ้มเก่งผู้เดินทางตามความฝัน คือการได้ทำงานสายบันเทิง ซึ่งเธอบอกว่าไม่จำเป็นต้องเป็นดาราหน้ากล้อง แต่ขอให้เป็นส่วนหนึ่งหรือเบื้องหลังก็ได้

น้องปรางค์ บอกว่า รู้สึกชอบงานสายบันเทิงมาตั้งแต่ช่วงมัธยม เกิดคำถามในหัวว่ากว่าจะออกมาเป็นภาพยนตร์หรือละครหนึ่งเรื่อง มีกระบวนการ ขั้นตอนการผลิตอย่างไรบ้าง เมื่อ มศว เปิดรับสมัครนักศึกษา ช่วงกำลังเรียน ม.6 ที่โรงเรียนซางตาครู้สคอนแวนท์ จึงลองมาสอบและติดเข้ามาจากระบบสอบตรง

เมื่อเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย สิ่งที่น้องปรางค์กังวลคือการปรับตัว และชีวิตความเป็นอยู่ที่ต่างไปจากโรงเรียน แต่กำแพงความกลัวนี้ก็ถูกพังทลายด้วยกิจกรรมรับน้อง ซึ่งน้องปรางค์ บอกว่า กิจกรรมรับน้องของเอกที่เรียน นอกจากการสันทนาการ เรียนรู้ระเบียบ ความรับผิดชอบ ความสามัคคี การใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยแล้ว สิ่งสำคัญคือการเรียนรู้การทำงานร่วมกันผู้อื่น เพราะการเรียนทางด้านนี้ต้องอาศัยการทำงานร่วมกันเป็นหมู่คณะ จึงจะประสบความสำเร็จ

"การเรียนชั้นปีที่ 1 ที่องครักษ์ก่อนจะมาเรียนชั้นปีที่ 2 ที่ประสานมิตร ทำให้เราเห็นว่าที่องครักษ์ทำให้เรารู้นิสัยใจคอเพื่อนใหม่แต่ละคนอย่างดี เพราะแทบ 24 ชั่วโมงที่ได้ใช้ชีวิตร่วมกัน แถมยังมีผลต่อการเรียน การไม่มีแหล่งบันเทิง ห้างสรรพสินค้าอยู่ใกล้ๆ ทำให้เราสนใจการเรียนมากขึ้น ซึ่งต่างจากประสานมิตรที่อยู่ใจกลางเมือง และการเดินทางก็ต้องเผื่อเวลามากขึ้นด้วย"

นอกจากการลงประกวดดาวเดือน และกิจกรรมรับน้องช่วงปี 1 น้องปรางค์ บอกว่า การได้ลองลงมือทำหนังสั้นของชั้นปี ที่รุ่นพี่ต้องการให้นักศึกษาปี 1 ทุกคนมีส่วนร่วม เพื่อเป็นการเริ่มต้น โดยตัวเองก็รับบทเป็นนักแสดงในเรื่องด้วย นอกจากนี้ ผลงานล่าสุดของเธอกับกลุ่มเพื่อน กับหนังสั้นเรื่องชายขอบ ที่พยายามสื่อให้เห็นว่าความสุขของคนเราเกิดขึ้นที่ใจ ถึงแม้ภายนอกอาจไม่เป็นที่ยอมรับแต่ก็สามารถทำสิ่งดีๆ ได้ ก็เป็น 1 ใน 10 ทีม ที่ได้เข้ารอบค่ายอบรม โครงการทำหนังสั้นในหัวข้อ "พุทธชยันตี 2,600 ปี" ของวัดสระเกศ

น้องปรางค์ บอกว่า การเรียนในช่วงปีแรก ยังเป็นการเรียนภาคทฤษฎี ยังไม่ได้ปฏิบัติมาก ซึ่งการย้ายมาที่ประสานมิตรในชั้นปีที่ 2 นี้ก็จะได้มีโอกาสใช้เครื่องไม้เครื่องมือมากขึ้น ช่วงที่ผ่านมาก็ได้สัมผัสงานเป็นตัวประกอบโฆษณา 3 ชิ้นซึ่งยังไม่ออนแอร์ ทำให้ได้เห็นเบื้องหลังการทำงานจริง เป็นประสบการณ์ที่ดีซึ่งทำให้รู้ว่างานที่เราเห็นแต่ละชิ้นที่ออกมานั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

เมื่อถามถึงความสุขของน้องปรางค์ เธอบอกว่านอกจากการได้อยู่กับกลุ่มเพื่อนๆ แล้วนั้น ก็คือการดูภาพยนตร์ ซึ่งมองว่าการมาเรียนทางด้านนี้ ยิ่งต้องดูภาพยนตร์ให้หลากหลายมากขึ้น ส่วนแนวที่ชื่นชอบนั้นคือแนวสืบสวนสอบสวน น่าค้นหา หรือไม่ก็เป็นแนวยอดมนุษย์ สำหรับวงการภาพยนตร์ไทยนั้น มองว่ายังไม่เปิดรับมากเท่าที่ควร ภาพยนตร์ไทยบางเรื่องที่ได้ฉายต่างประเทศและเป็นที่ยอมรับ กลับถูกแบนไม่ให้ฉายในประเทศ

ท้ายสุด น้องปรางค์ บอกถึงจุดเด่นของวิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคมที่น่าจะต่างจากการเรียนที่อื่นคือ การใช้ภาษาเรียนสองภาษา ซึ่งตรงนี้จะทำให้การจบไปทำงานได้หลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะการทำงานร่วมกับชาวต่างชาติได้ ส่วนน้องๆ ที่สนใจอยากเรียนทางด้านนี้ก็อยากแนะนำว่าให้ดูภาพยนตร์มากๆ หลายๆ แนว พร้อมทั้งศึกษาข้อมูลต่างๆ ทั้งประวัติ นักแสดง ผู้กำกับ หรือรางวัลภาพยนตร์เวทีต่างๆ และอย่าลืมการทดลองคิดและลงมือทำด้วยตัวเอง.