ขยายเวลาส่งมอบรถคันแรกระวังดีมานด์เทียม!
 


ขยายเวลาส่งมอบรถคันแรกระวังดีมานด์เทียม!


ขยายเวลาส่งมอบรถคันแรกระวังดีมานด์เทียม!

altจากมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 30 ก.ค. 2555 ได้อนุมัติการขยายเวลาการรับส่งมอบรถยนต์ในโครงการลดภาษีรถคันแรกโดยไม่มีกำหนด ก็มีการแสดงความคิดเห็นจากทั้งผู้ผลิตรถยนต์และ ตัวแทนจากวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ออกมาสนับสนุนพร้อมๆกับเสียงเตือนให้ระวังผลกระทบที่ตามมาในอนาคต
 โดยนายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)และประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ให้ความเห็นในเรื่องนี้กับ"ฐานเศรษฐกิจ" ว่า การขยายเวลาการรับรถออกไป ในแง่ของผู้บริโภคถือว่าได้ประโยชน์ แต่ทั้งนี้รัฐบาลจะต้องมีการควบคุมดูแลการจองรถ โดยคาดว่าจะมีการสวมสิทธิ์หรือนอมินีในการจองเป็นจำนวนมาก ขณะที่การรับมือของบริษัทผู้ผลิตก็ต้องมีการประชุมเพื่อวางแผนบริหารจัดการการผลิตในอนาคต
 ขณะเดียวกัน ก็มีเสียงสะท้อนจากผู้ประกอบการถึงผลกระทบในด้านลบอาจมีต่อตลาดรถยนต์ไทย  โดย  นายประพัฒน์  เชยชม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า   "จากมติดังกล่าวจะทำให้เกิดปรากฏการณ์แบ็กออร์เดอร์มหาศาล เนื่องจากเป็นการดึงกำลังซื้อของปีหน้ามา หรือแม้แต่บางคนที่ไม่ได้ต้องการซื้อ แต่ต้องการรับสิทธิ์ก็จะจองทิ้งกันไว้ก่อน ซึ่งตรงนี้รัฐบาลจะต้องมีแผนงานหรือเตรียมงบประมาณเพื่อมารองรับหากจำนวนผู้ขอใช้สิทธิ์เพิ่มขึ้น ขณะที่แผนการของโรงงานรถยนต์นั้นถือว่าได้รับประโยชน์เพราะไม่ต้องเร่งผลิต"
alt เช่นเดียวกับ นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์(ประเทศไทย)จำกัด  ที่มองมติ  ครม.ดังกล่าว   อย่างเป็นห่วงว่า  เมื่อตีความในเบื้องต้นคือการขยายเวลาการรับรถออกไปแบบไม่มีจำกัด ซึ่งหากมองในภาพรวมแล้วไม่ค่อยดีกับประเทศและตลาดเท่าไรนัก เพราะจะเกิดความต้องการเทียมขึ้นมา และตัวเลขจะไม่สะท้อนให้เห็นภาพของตลาดที่แท้จริง
  แต่ในฐานะผู้ผลิตเมื่อยืดเวลาออกไปก็ถือว่าเป็นเรื่องดี แต่ต้องการความชัดเจนว่าจะเป็นเวลากี่เดือน เพราะจะได้มีการวางแผนการผลิตรวมไปถึงบอกกล่าวกับดีลเลอร์เพื่อเตรียมแผนรับมือกับยอดจองที่จะเข้ามาอีกเป็นจำนวนมาก
  "เราส่งมอบรถสวิฟต์ประมาณ 5,000 คันให้กับลูกค้าแล้ว และยังมีแบ็กออร์เดอร์อีกประมาณ 17,000 คัน ขณะที่สวิฟต์ในรุ่นเกียร์ธรรมดาจะเปิดตัวในเดือนหน้า ซึ่งหลังจากที่รัฐขยายเวลาออกไปอีกก็คาดว่าจะมียอดจองเข้ามาแบบถล่มทลาย อย่างไรก็ตามยังมีสิ่งที่กังวลใจคืองบประมาณที่รัฐบาลได้จัดสรรไว้ว่าจะพอกับจำนวนปริมาณรถที่จะขอใช้สิทธิ์เพิ่มขึ้นหรือไม่ "
 ทั้งนี้    มติคณะรัฐมนตรีวันที่ 30 กรกฎาคม 2555 ได้อนุมัติการขยายเวลาการรับส่งมอบรถยนต์รวมถึงเอกสารหลักฐาน ของราชการออกไปสำหรับโครงการรถคันแรก  โดยมีแนวทางการดำเนินงานตามที่กระทรวงการคลังเสนอดังนี้คือ
 1. ผู้ขอใช้สิทธิ์ ต้องทำการซื้อหรือจองรถยนต์ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2555 และต้องยื่นขอใช้สิทธิ์ และเอกสารประกอบการใช้สิทธิ์ ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2555
  2.  เนื่องจากในวันที่ 31 ธันวาคม 2555 ผู้ขอใช้สิทธิ์ อาจจะยังไม่ได้รับมอบรถยนต์หรือจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกไม่ทันตามกำหนดเวลา ส่งผลให้ไม่สามารถยื่นเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ได้ภายในวันสิ้นสุดโครงการ (31 ธันวาคม 2555) จึงผ่อนผันให้ผู้ขอใช้สิทธิ์ นำเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมมายื่น ณ สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่หรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่สาขาภายในระยะเวลา 90 วัน นับจากถัดจากวันรับมอบรถยนต์
  3.  หากผู้ขอใช้สิทธิ์ไม่ดำเนินการตามข้อ 1  และนำเอกสารเพิ่มเติมในข้อ 2 มายื่น ณ สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่หรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่สาขาภายในระยะเวลาที่กำหนด ให้ถือว่าผู้ขอใช้สิทธิ์  ไม่ประสงค์จะขอรับเงินคืนตามโครงการรถยนต์ใหม่คันแรกและจะเรียกร้องสิทธิ์ และค่าเสียหายใด ๆ กับทางราชการไม่ได้                
   อนึ่ง เพื่อให้นโยบายรัฐบาลในเรื่องรถยนต์ใหม่คันแรกประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย และให้เกิดความคล่องตัว ควรให้กรมสรรพสามิตสามารถกำหนดแนวปฏิบัติเพิ่มเติมเพื่อให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีต่อไปได้                   4.  ผู้ขอใช้สิทธิ์ จะได้รับเงินคืนหลังจากครอบครองรถยนต์ใหม่คันแรกไปแล้ว 1 ปี หากเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กรมสรรพสามิตกำหนด ทั้งนี้ ชื่อผู้ซื้อที่ระบุในใบจองรถยนต์ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2555 จะต้องเป็นบุคคลเดียวกันกับผู้ซื้อรถยนต์ที่ยื่นขอใช้สิทธิ์ ดังกล่าวเท่านั้น หากเป็นบุคคลอื่นจะไม่ได้รับสิทธิ์ เพื่อเป็นการป้องกันมิให้มีการซื้อและขายใบจองรถยนต์
  สำหรับโครงการรถคันแรกของรัฐบาลได้เริ่มขื้นตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2554 จนถึงวันที่ 13 กรกฎาคม 2555 มีจำนวนผู้ยื่นขอใช้สิทธิ์กับกรมสรรพสามิตประมาณ 93,833 ราย และจำนวนเงินที่จะต้องจ่ายคืนประมาณ 6,823 ล้านบาท  โดยมีการคาดการณ์ว่าในครึ่งปีหลังนี้ยอดดังกล่าวจะเพิ่มสูงขึ้น และจากข้อมูลของบริษัทรถยนต์คาดว่าในปีนี้จะมียอดจองรถยนต์ที่เข้าข่ายตามหลักเกณฑ์รถคันแรกประมาณ 425,000 คัน
  จากยอดจองที่เพิ่มสูงขึ้น อาจจะทำให้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไม่สามารถผลิตและส่งมอบรถได้ทัน วันที่สิ้นสุดโครงการ ในวันที่ 31 ธันวาคม  2555 ส่งผลให้ผู้ที่ต้องการเข้าร่วมโครงการ ไม่สามารถรับรถยนต์ได้ทันภายในปีนี้ จึงไม่สามารถยื่นเอกสารหลักฐานได้ทันตามกำหนดเวลาข้างต้น   ดังนั้นเพื่อให้โครงการดำเนินไปได้อย่างราบรื่นอีกทั้งเพื่อชดเชยกับระยะเวลาที่โรงงานผลิตรถยนต์และโรงงานผลิตชิ้นส่วนและอะไหล่หยุดดำเนินการเนื่องจากประสบอุทกภัย กระทรวงการคลังจึงพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่ควรขยายเวลาวันสิ้นสุดโครงการ แต่เห็นควรขยายเวลารับและส่งมอบรถยนต์รวมถึงเอกสารหลักฐานบางรายการออกไป



// //

Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.