ป้ายแดงขาดแคลน ยอดจดทะเบียนพุ่ง 20% อานิสงส์รถคันแรก
 


ป้ายแดงขาดแคลน ยอดจดทะเบียนพุ่ง 20% อานิสงส์รถคันแรก


ป้ายแดงขาดแคลน ยอดจดทะเบียนพุ่ง 20% อานิสงส์รถคันแรก

รองฯขนส่งแจงป้ายแดงขาดแคลนเพราะยอดจะทะเบียนพุ่ง เหตุอั้นส่งมอบมาตั้งแต่ช่วงน้ำท่วม เผยยอดจดทะเบียนรอบ 3 เดือน ขยับเพิ่ม 15-20% ด้านกลุ่มยานยนต์มั่นใจส่งออกยานยนต์เข้าเป้า ไม่หวั่นกระแสวิกฤติยูโรโซน

วันที่ 17 ก.ค. นายจิรุตม์ วิศาลจิตร รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวถึงปัญหาป้ายแดงของรถจดทะเบียนใหม่ที่ไม่เพียงพอต่อการใช้งานขณะนี้ว่า เกิดจากปัญหาการจดทะเบียนรถยนต์ใหม่ที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากที่ยอดการจำหน่ายและส่งมอบรถยนต์ใหม่ ซึ่งเคยอั้นไว้ตั้งแต่ช่วงวิกฤติอุทกภัยปลายปี 2554 ซึ่งค่ายรถยนต์หลายแห่งมีปัญหาไม่สามารถส่งมอบรถยนต์ให้แก่ลูกค้าได้ และเมื่อถึงปีนี้เมื่อมีการส่งมอบรถยนต์พร้อมกัน รวมถึงมาตรการลดภาษีรถยนต์คันแรกและความนิยมรถอีโคคาร์ ทำให้การจดทะเบียนรถยนต์ใหม่ในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมายอดจดทะเบียนรถใหม่ที่พุ่งสูงขึ้นกว่าร้อยละ 15-20 ทำให้เกิดภาวะป้ายแดงขาดแคลน

ล่าสุดกรมการขนส่งทางบกเดินหน้าแก้ปัญหาดังกล่าว ด้วยการผลิตและเพิ่มป้ายแดงแจกจ่ายให้แก่บริษัทตัวแทนจำหน่ยรถยนต์ไปแล้ว จากแต่ละปีที่จะมีป้ายแดงให้ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ใช้หมุนเวียนกว่า 700,000 ป้าย อย่างไรก็ตามการเพิ่มขึ้นจะต้องอยู่ระดับปริมาณที่เหมาะสม ไม่เช่นนั้นจะทำให้ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ที่จำหน่ายรถยนต์ให้ลูกค้าไม่ไปเร่งดำเนินการจดทะเบียน ซึ่งจะส่งผลกระทบทำให้รายได้ภาษีเข้ารัฐช้า และทำให้ประชาชนที่ใช้รถยนต์ได้รับป้ายทะเบียนป้ายดำของตัวเองช้าไปด้วย

ขณะที่นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ยอมรับว่าการที่ค่ายรถยนต์เร่งการส่งมอบรถยนต์ให้แก่ลูกค้าในช่วงนี้ หลังจากปัญหาอุทกภัยปลายปี 2554 ทำให้ยอดจำหน่ายรถยนต์ในช่วง 5 เดือนแรกปีนี้เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมามียอดจำหน่ายรถยนต์ทุกประเภทสูงถึง 115,000 คัน ถือว่าเป็นยอดจำหน่ายสูงสุดในเดือนเดียวในรอบ 50 ปี หรือตั้งแต่ประเทศไทยเริ่มมีการผลิตอุตสาหกรรมยานยนต์ ขณะที่ยอดการผลิตทั้งจำหน่ายในประเทศและส่งออกก็เพิ่มสูงขึ้นในทิศทางเดียวกัน โดยเดือนพฤษภาคมมียอดการผลิตสูงถึง 202,000 คัน และทิศทางของอุตสาหกรรมยานยนต์ปีนี้ผู้ประกอบการยังมั่นใจว่ายังสามารถมียอดจำหน่ายเป็นไปตามเป้าหมาย คือ จำหน่ายรถยนต์ในประเทศมากกว่า 1.2 ล้านคัน และส่งออกมากกว่า 1 ล้านคัน แม้ว่าขณะนี้หลายฝ่ายมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤติเศรษฐกิจยูโรโซน แต่จากปัจจุบันที่ไทยมีการผลิตรถยนต์เพื่อการส่งออกไปภูมิภาคยุโรปสัดส่วน ร้อยละ 6.5 เมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นๆ เชื่อว่าปัญหาดังกล่าวจะกระทบไทยไม่มาก โดยกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์จะติดตามตัวเลขการส่งออกไปในภูมิภาคสหภาพยุโรป (อียู) อย่างใกล้ชิด.



// //

Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.