มาสด้าสุดปลื้ม ยอดขายพุ่งที่ 6 จากทั่วโลก ปรับเป้าปีนี้จาก 6 หมื่นคัน เป็น 7 หมื่นคัน พุ่งจากปีก่อน 67% เร่งเครื่องโรงงานผลิตป้อนเก๋งป้อนตลาดในประเทศเป็น 90% ส่งออกลดเหลือแค่ 10 % ชี้ลดแบ็กออร์เดอร์เหลือแค่ 4 เดือน บีที-50 ค้างส่งแค่ 7 พันคัน ส่วนมาสด้า 2 ออร์เดอร์ล้น 1.2 หมื่นคัน
นายโออิชิ ยูกิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้าเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์มาสด้าในประเทศไทย เปิดเผยว่า ครึ่งแรกของปี 2555 มาสด้าประสบความสำเร็จเกินความคาดหมาย ยอดขายทะลุกว่า 30,000 คัน ทำให้บริษัทปรับเป้าหมายของปีนี้จากเดิมยอดขาย 60,000 คัน ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 45% ปรับเพิ่มขึ้นอีก 17% หรือคิดเป็นยอดขาย 70,000 คัน เพิ่มขึ้น 67% เมื่อเทียบกับปี 2554 ที่มียอดขาย 41,980 คัน
"การที่มาสด้าประสบความสำเร็จมาก ทำยอดขายได้สูงเป็นอันดับ 6 ของมาสด้าทั่วโลก ทำให้บริษัทแม่ปรับแผนการผลิตที่โรงงาน ออโต้ อัลลายแอนซ์(ประเทศไทย) จำกัด เพื่อตอบสนอง
ตอบความต้องการภายในประเทศมากขึ้น จากเดิมรถยนต์นั่ง ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 75% และส่งออก 25% ปรับเปลี่ยนเป็นผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 90% และส่งออกเพียง 10% ขณะที่รถปิกอัพผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 45% และส่งออก 55% ยังคงสัดส่วนเช่นเดิม ซึ่งทำให้บริษัทส่งมอบรถให้กับลูกค้าได้ทันกับความต้องการมากขึ้น จากเดิมส่งมอบได้เพียง 900 คัน/เดือน ก็ปรับเพิ่มเป็น 2,500-2,700 คัน/เดือน ซึ่งทำให้ยอดค้างส่งมอบหรือแบ็กออร์เดอร์ลดลงเหลือ 3-4 เดือน แต่หากไม่เลือกสีเลือกรุ่น อาจได้รับเร็วขึ้น โดยปัจจุบัน มาสด้า 2 มียอดค้างส่ง 12,000 คัน และปิกอัพ บีที-50 ค้างส่ง 6,000-7,000 คัน"
นายยูกิ กล่าวต่อว่า ตลาดรถยนต์หลังจากหมดมาตรการลดภาษีรถคันแรก อาจหดตัวอย่างรุนแรง ซึ่งจะเห็นภาพอย่างชัดเจนในปี 2556-2557 ยอดขายรถจะดิ่งตัวอย่างชัดเจน ซึ่งอาจกระทบในช่วงไตรมาสแรกหรือไตรมาสที่ 2 หลังจากนั้น ตลาดจะกลับคืนสู่การขายรถช่วงปกติ อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามที่ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์มาสด้าส่วนใหญ่เชื่อว่า แม้จะไม่มีการต่ออายุนโยบายลดภาษีรถคันแรก ลูกค้าก็ยังสนใจซื้อรถอย่างต่อเนื่อง ส่วนกรณีที่ไทยจะร่วมเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซี ในเร็วๆนี้ จะเป็นผลดีที่ภาคการผลิตสามารถนำเข้าชิ้นส่วนยานยนต์จากอาเซียนโดยไม่มีกำแพงภาษีเหมือนอย่างที่ผ่านมา นอกจากนี้ไทยยังสามารถส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปทั้งคันหรือซีบียู ไปยัง 9 ประเทศอาเซียนได้สะดวกขึ้น ในด้านของตัวแทนจำหน่ายจากเดิมที่กลุ่มธุรกิจเพื่อนบ้านมาตั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายอยู่แล้ว ก็จะเพิ่มจำนวนมากขึ้น ซึ่งผู้ประกอบการชาวไทยต้องเร่งมือพัฒนาธุรกิจให้แข่งขันได้
นางสาวสุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลาดรถยนต์ในปีนี้ จะเติบโตไม่น้อยกว่า 1.2 ล้านคัน เป็นประวัติศาสตร์หน้าตาของวงการรถยนต์ไทย โดยตลาดรถยนต์ในช่วงครึ่งปีหลังจะทวีการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น จากนโยบายลดภาษีรถคันแรกที่จะหมดลงหลังวันที่ 31 ธันวาคม 2555 ซึ่งทำให้ยอดขายรถปิกอัพและรถยนต์นั่งระดับ บี-คาร์ เหวี่ยงตัวเร็วขึ้น เนื่องจากเป็นการเร่งกำลังล่วงหน้ามาใช้ในปีนี้ ทำให้ยอดขายปิกอัพเติบโตถึง 580,000-600,000 คัน ส่วนรถนั่งระดับบี-คาร์ จะมียอดขายถึง 340,000-400,000 คัน การทำตลาดไม่ได้แข่งขันที่ยอดขาย แต่แข่งด้วยการแย่งส่วนแบ่งตลาด แย่งดีมานด์ลูกค้า ทำตลาดในเชิงลึกมากขึ้น
อนึ่ง ยอดขายรถยนต์มาสด้าในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2555 มีจำนวนทั้งสิ้น 30,577 คัน เพิ่มขึ้น 51% เมื่อเทียบกับปี 2554 โดยแบ่งออกมาเป็น มาสด้า บีที-50 จำนวนทั้งสิ้น 10,155 คัน เพิ่มขึ้น 108% มาสด้า 2 จำนวน 18,064 คัน เพิ่มขึ้น 44% มาสด้า 3 จำนวน 2,343 คัน ลดลง 17% เนื่องจากอยู่ระหว่างการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ โมเดล 2012 นอกจากนี้ยังมีรถในกลุ่มพรีเมียมคือ มาสด้า เอ็มเอ็กซ์ 5 มียอดขาย 8 คัน ลดลง 33 % มาสด้า ซีเอ็กซ์ 9 มียอดขาย 7 คัน ลดลง 36 %