ค่ายรถเชฟโรเลต เปิดตัวรถยนต์อเนกประสงค์ หรือ PPV รุ่นใหม่ เทรลเบลเซอร์ ที่พัฒนามาจากรถปิกอัพ เชฟโรเลต โคโลราโด โดยตั้งราคาเริ่มต้นที่ 1.059 ล้านบาท 2.5 LT ขับเคลื่อนสองล้อ แต่รุ่นที่ขายดีน่าจะเป็นรุ่นเครื่องยนต์ 2.8 LT ขับเคลื่อนสองล้อ ที่เริ่มต้นที่ 1.249 ล้านบาท ส่วนรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อเริ่มที่ 1.299 ล้านบาท โดยภาพรวมแล้ว หน้าตาของ เชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์ หล่อ ดุดัน สไตล์อเมริกัน ด้วยกระจังหน้าแบบสองชั้น ดูอัลพอร์ต ลวดลายกระจังแบบ 3 มิติ สอดรับกับกระโปรงรถที่มีขอบสันเด่นชัดเจน และไฟหน้าที่ติดตั้งอยู่ในตำแหน่งสูง ดูดุดันให้กับตัวรถ นอกจากนี้ ชิ้นส่วนต่างๆ เช่น ขอบกระจังหน้า มือจับประตู กระจกมองหลัง ไฟหน้า ไฟตัดหมอก และกันชนหลัง ยังตกแต่งด้วยโครเมียม เพื่อเสริมความหรูหรา เด่นสะดุดตา ด้านท้ายรถให้ทัศนวิสัยที่เด่นชัด ด้วยกระจกหลังขนาดใหญ่ที่กินพื้นที่ไปถึงบริเวณมุมตัวถังทั้งสองด้าน ซึ่งทำให้เชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์ไม่มีเสาหลังคา หรือ C-pillar เหมือนรถ SUV ทั่วไป ช่วงของการขับรถทดสอบ ผมใช้เส้นทางกรุงเทพฯ-ฟาร์มโชคชัย สัมผัสแรกที่รู้สึกทันทีคือ พวงมาลัยหนักกว่ารถญี่ปุ่นทั่วไป สอบถามที่ทีมวิศวกรแล้ว ก็ได้คำตอบว่า เป็นการตั้งค่าเผื่อไว้ในกรณีที่บรรทุกเต็มที่ หน้ารถจะลอย ทำให้พวงมาลัยเบาและไวเกินไป แต่เมื่อสร้างความคุ้นเคยสักพักก็เริ่มเคยชิน ไม่รู้สึกอะไร รุ่นที่ผมนำมาทดสอบเป็นเครื่องยนต์ขนาด 2.8 ลิตร ที่ให้การตอบสนองอย่างน่าพอใจ จากพละกำลัง 180 แรงม้า แรงบิด 470 นิวตัน-เมตร เมื่อใช้งานควบคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ให้อัตราเร่งแซงอยู่ในเกณฑ์ที่ดุดันดี สำหรับการขับเคลื่อนรถอเนกประสงค์ขนาด 7 ที่นั่ง ที่มีน้ำหนักตัวประมาณ 1.8 ตัน ระบบถ่ายทอดกำลังแบบ เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ที่มาพร้อมกับระบบ DSC (Driver Shift Control) ซึ่งช่วยให้ผมสามารถปรับเปลี่ยนเกียร์ได้เองแบบเกียร์ธรรมดา สำหรับรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อนั้น แรงบิดจากเครื่องยนต์จะถูกส่งผ่านไปยังล้อหน้าผ่านทางตัวแบ่งกำลังระบบไฟฟ้า ระบบเกียร์ขับเคลื่อน 4 ล้อของเชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์ สามารถทำงานได้ในโหมด 2-High (ขับเคลื่อนล้อหลังเท่านั้น) 4-High 4-Low (ด้วยอัตราทดเกียร์ 2.62) และ Neutral ซึ่งสามารถเลือกได้ด้วยสวิตช์ระบบอิเล็กทรอนิกส์ติดตั้งอยู่ใต้คันเกียร์ บริเวณคอนโซลกลาง ทีมงานของเชฟโรเลต จัดสถานีให้ทดสอบช่วงล่างเทรลเบลเซอร์หลายรูปแบบ เพื่อเน้นความโดดเด่นระบบกันสะเทือนที่นุ่มนวลบนท้องถนนทั่วไป ด้วยการใช้คอยล์สปริงทั้งสี่ล้อคู่กับระบบช่วงล่างด้านหลังแบบ 5 ลิงก์ โครงสร้างเป็นอิสระต่อกัน ช่วงล่างสามารถให้ตัวและดูดซับน้ำหนักได้มากขึ้นเพื่อการบุกตะลุยไปบนพื้นผิวถนนทุกรูปแบบสไตล์ออฟโรด ซึ่งเชฟโรเลตเน้นว่า พบได้ในรถอเนกประสงค์ระดับพรีเมียมเท่านั้น ด้านอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยในเทรลเบลเซอร์มีครบทุกอย่างที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็น ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS ระบบกระจายแรงเบรกอิเล็กทรอนิกส์ EBD ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและป้องกันการลื่นไถล TCS ระบบช่วยเบรกไฮดรอลิก HBA รวมทั้งระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESC ที่ทำงานร่วมกับระบบ TCS ระบบนี้จะสั่งงานให้รถป้องกันการสูญเสียการควบคุมทุกรูปแบบ โดยขึ้นอยู่กับสภาวะการขับขี่ ซึ่งอาจจะสั่งงานให้ระบบเบรกทำงานหนึ่งล้อ สองล้อ หรือสามล้อพร้อมกันได้ และที่เด็ดกว่าคือ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ เมื่อลงทางลาดชัน HDC และระบบควบคุมป้องกันการไหลของรถเมื่อขึ้นทางลาดชัน HAS ที่มีให้เฉพาะ SUV ระดับหรูเท่านั้น โดยภาพรวมแล้ว เชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์ เปิดตัวราคาออกมาค่อนข้างสูงเกินคาดไปนิด แต่แลกกับรถอเนกประสงค์ขนาด 7 ที่นั่งหน้าตาดุดัน พร้อมสมรรถนะโดดเด่นและระบบความปลอดภัยระดับรถSUV ชั้นดี น้ำหนักรถทำให้การเบรกหยุดต้องเผื่อระยะและผ่อนความเร็วบ้าง อารมณ์การขับขี่ออกสไตล์หนักแน่นแบบอเมริกันครับ