อีซูซุดีแมคซ์ใหม่บุกจีน ตะลุยสวรรค์จางเจียเจี้ย(2)
 


อีซูซุดีแมคซ์ใหม่บุกจีน ตะลุยสวรรค์จางเจียเจี้ย(2)


อีซูซุดีแมคซ์ใหม่บุกจีน ตะลุยสวรรค์จางเจียเจี้ย(2)
">วันที่สามของการเดินทาง  ขบวนคาราวานอำลาจากเมืองฉางซาที่แสนจะคึกคักไปสู่เมืองจางเจียเจี้ย  เมืองเล็กๆที่พึ่งพาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นหลัก  ตามกำหนดการ เราจะขับรถระยะทางเพียง  350 กม. เพียงครึ่งวันก็น่าจะกินข้าวมื้อกลางวันที่เมืองจางเจียเจี้ยได้อย่างสบาย
  เริ่มต้นของการเดินทาง  ผมเปลี่ยนสถานะที่ผู้ขับมาเป็นผู้โดยสารทดสอบ  มีเวลามานั่งสำรวจภายในห้องโดยสารของอีซูซุ ดีแมคซ์ รุ่นไฮแลนเดอร์ 4 ประตู กันบ้าง   ต้องยอมรับละครับว่านั่งสบายเหมือนรถเก๋งชั้นดี เบาะนั่งดีไซน์โอบกระชับเว้าของรูปทั้งแผ่นหลังและสะโพก  เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง  ระบบปรับอากาศแบบดิจิตอล อัตโนมัติ และที่น่าทึ่งคือระบบความบันเทิงระบบเสียงเซอร์ราวด์รอบทิศทาง เกินหน้ารถปิกอัพทั่วไป ตั้งแต่เครื่องเล่นดีวีดีของเคนวูด พร้อมจอมอนิเตอร์ ขนาด 7 นิ้ว ให้ความบันเทิงครบทั้งภาพและเสียง  ผมเองเพลิดเพลินกับการเล่นแผ่นดีวีดีคอนเสิร์ต สลับการเล่นเพลงจากแผ่นเอ็มพี 3  พอเบื่อก็เปิดลิ้นชักควัก USB เสียบฟังเพลงอัลบั้มใหม่ จนสุดท้าย  เปิดไอโฟนเล่นเพลงผ่านบลูทูธให้เสียงกระหึ่มสะใจ 
alt  ขบวนคาราวานเดินทางเข้าทางด่วนลอยฟ้า ซูเปอร์ไฮเวย์ไม่นานนัก ก็ทราบข่าวร้ายว่า เส้นทางข้างหน้ามีอุบัติเหตุจนต้องปิดการจราจร ทีมงานไม่มีทางเลือกจึงหันหัวรถลงจากทางด่วนไปวิ่งบนเส้นทางท้องถิ่นแทน ความมันจึงเกิดขึ้น เมื่อขบวนคาราวานที่เคยพบกับถนนไฮโซ การจราจรแบบดัดจริต เปลี่ยนมาพบกับสภาพการจราจรที่แสนจะวุ่นวาย ไร้การปรุงแต่งในชีวิตประจำวันจริงๆของคนจีน  สมาชิกคาราวานถึงกับประสาทกิน สติแตก เมื่อเจอคนแก่ ผู้หญิงท้อง ผู้ใหญ่เข็นรถเด็กอ่อน เดินข้ามถนนอย่างไม่สนใจรถที่ขับพุ่งมาอย่างรวดเร็ว ขณะที่รถโดยสารเจ้าถิ่น แซงดะกินเลน โดยไม่ยี่ระกับเสียงแตรที่คนไทยกดกระหน่ำเชิงด่าทอ
 ยิ่งช่วงที่เราต้องขับอีซูซุ ดีแมคซ์ ใหม่ ผ่านตลาดสด จะรู้สึกเหมือนนรกมาเยืยน ต้องใช้ทักษะในการขับขี่ ใช้การตัดสินใจในเสี้ยววินาที ขับพวงมาลัยหักหลบแก๊งจักรยานฟิกเกียร์  ก่อนมาเจออาแปะตาบอดเดินข้ามถนน และอาม่าเข็นผักเข่งใหญ่สวนทางมา   ผมรู้สึกถึงอะดรีนาลีนที่สูบฉีดไปทั่วร่างกาย   และความเคร่งเครียดบนใบหน้าของสมาชิก  ซึ่งกว่าจะผ่านถนนท้องถิ่นมาขึ้น
ทางด่วนได้อีกครั้งก็แทบจะหมดแรง  และขณะที่ขบวนคาราวานเริ่มผ่อนคลาย เดินทางใกล้ถึงเมืองจางเจียเจี้ย ผมเริ่มคิดในใจว่า รู้สึกไปเองคนเดียวหรือเปล่าว่า  การขับขี่รถบนทางด่วนมันไร้รสชาติ และจืดชืดสิ้นดี 
alt เมื่อถึงเมืองจางเจียเจี้ย แดนมรดกโลก สมาชิกจอดอีซูซุ ดีแมคซ์  ใหม่ไว้ที่โรงแรม  เปลี่ยนไปโดยสารรถบัสท้องถิ่น ที่มีความชำนาญในสภาพถนนหนทางในอุทยานมากกว่า ต้องบอกว่า หลังจากภาพยนตร์ไซไฟ ฟอร์มยักษ์"อวตาร"  ออกฉาย ชื่อเสียงของจางเจียเจี้ยก็ยิ่งโด่งดังมากขึ้น นักท่องเที่ยวทั้งชาวจีนและชาวต่างประเทศแห่เดินทางมาชมธรรมชาติที่งดงามเหมือนสรวงสวรรค์ แม้ค่าเข้าชมจะมีราคาแพง ต้องนั่งลิฟต์แก้วสูงเสียดฟ้า   เพื่อชมยอดเขาสูงชะลูดนับพันที่มีต้นไม้ปกคลุม ท่ามกลางสายหมอกบางๆ บางช่วงไปชมทิวทัศน์หุบเขาลึกท้าทายความกล้า สะท้อนถึงความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติที่งดงามจนตะลึง   นอกจากนี้ ผมยังมีโอกาสขึ้นกระเช้าสูงปรี๊ดระยะทางกว่า 7 กม.ขึ้นไปชมประตูสวรรค์ เทียนเหมินซาน ที่มีบันได 999 ขั้นทอดยาวขึ้นไปสู่ช่องเขาที่เป็นหน้าหน้าต่างเชื่อมโยงแผ่นดินกับสรวงสวรรค์ที่ดูน่าอัศจรรย์ยิ่ง
 อุทยานสวรรค์จางเจียเจี้ย เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวชาวไทยให้ความสนใจในอันดับต้นๆของการสัมผัสธรรมชาติที่กว้างขวางของประเทศจีน แต่ส่วนใหญ่จะเดินทางด้วยเครื่องบิน รถบัสโดยสาร  คงมีน้อยคนนัก ที่มีโอกาสขับขี่รถปิกอัพ อีซูซุ ดีแมคซ์ คันใหม่เอี่ยม เมดอิน ไทยแลนด์ ผจญภัยในระยะทาง  1,700 กม. เหมือนอย่างที่ผมได้ทำในครั้งนี้  



// //

Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.