">ทาคายูกิ คิมูระประธานใหม่ค่ายนิสสัน ประกาศกร้าวครองส่วนแบ่งการตลาด 15% ภายในปี 2559 พร้อมเดินหน้ารุกตลาดปี 55 ด้วยการส่งรถใหม่ 2 รุ่นเจาะตลาดซี-เซ็กเมนต์ และขยายดีลเลอร์20 แห่ง มั่นใจสิ้นปีโกยยอด 1 แสนคัน 
  นายทาคายูกิ คิมูระ ประธาน บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตามแผนธุรกิจภายใต้ชื่อ NMT Power Up 2016 จะทำให้นิสสันในประเทศไทยมีส่วนแบ่งทางการตลาด 15% ภายในปี 2559 และมีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ไม่ต่ำกว่า 10 รุ่น ซึ่งจะเป็นการสร้างความหลากหลายในตัวสินค้า นอกจากนั้นแล้วนิสสันจะให้ความสำคัญเกี่ยวกับการบริการหลังการขายผ่านตัวแทนจำหน่ายที่มีแผนการขยายอย่างต่อเนื่อง
  ขณะที่แผนงานในปี 2555 ของประเทศไทยจะมีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ 2 รุ่นในช่วงปลายปีนี้ โดยจะเป็นรถยนต์นั่งคอมแพ็กต์ระดับกลาง แบบ 4 ประตู รุ่นใหม่ล่าสุดในไตรมาสที่ 2 ของปีงบประมาณนี้ และอีก 2 รุ่นใหม่ในปลายปีนี้ ซึ่งรวมถึงรถยนต์นั่งคอมแพ็กต์ระดับกลางรุ่นใหม่ อีกหนึ่งตัวถังอีกด้วย
  นายคิมูระ กล่าวเพิ่มเติมว่า การเปิดตัวรถใหม่เข้าสู่ตลาดจะเป็นการเติมเต็มรถประเภทต่างๆของนิสสันให้รองรับกับความต้องการของลูกค้า นอกจากนั้นแล้วนิสสันยังเตรียมขยายโชว์รูมและศูนย์บริการจากเดิมที่มีอยู่ 167 แห่งทั่วประเทศ ก็จะเพิ่มขึ้นอีก 20 แห่งภายในปีนี้ โดยนิสสันคาดว่าเป้าหมายการขายในปีงบประมาณ  2555 ไว้ที่ 100,000 คัน หรือคิดเป็นส่วนแบ่งทางการตลาด 10%
  โดยผลการดำเนินงานในปี 2554 ของนิสสัน พบว่ามียอดขายอยู่ที่ 76,524 คัน เพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา และมีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 9.2%ซึ่งถือว่าเป็นไปเป้าหมายตามแผนธุรกิจภายใต้ชื่อ NMT Power Up 2016 ส่วนยอดขายทั่วโลกของนิสสันก็มีจำนวนกว่า 4.845 ล้านคัน เติบโตขึ้น 15.8 %เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาซึ่งสูงกว่าอัตราการเติบโตของทั้งตลาดทั่วโลก  
  "เราปิดปีงบประมาณ 2554  ด้วยยอดขายเดือนมีนาคมที่ 12,698 คัน นับเป็นยอดขายที่สูงสุด ตั้งแต่นิสสันก่อตั้งธุรกิจในประเทศไทย มาเป็นระยะเวลา 59 ปี โดยปัจจัยที่ทำให้ยอดขายของเราเติบโตส่วนหนึ่งมาจากรถอีโคคาร์ โดยนิสสันถือเป็นค่ายแรกที่เปิดตัวอีโคคาร์สู่ตลาด และเป็นค่ายเดียวที่มีทั้งรุ่นแฮตช์แบ็กและรุ่นซีดาน 4 ประตู"
  ด้านนายประพัฒน์ เชยชม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงภาพรวมของนิสสันในตอนนี้พบว่า มียอดค้างส่งหรือ แบ็กออร์เดอร์ทุกรุ่นประมาณ 25,000 คัน โดยรุ่นที่มีแบ็กออร์เดอร์นานจะเป็นนิสสัน อัลเมร่า ประมาณ 4เดือน ,นิสสัน มาร์ช 3 เดือน ขณะที่ยอดขายในช่วงต้นปีตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมานิสสันสามารถทำยอดขายได้ 43,000 คัน
  "ถ้าความต้องการของตลาดดี หรือถ้าเรามีรถรุ่นใหม่ๆเข้าสู่ตลาดต่อเนื่อง ก็ต้องมีการคิดถึงเรื่องการขยายการผลิต เพราะเรามีทั้งตลาดส่งออกและตลาดในประเทศ ซึ่งแนวทางในปัจจุบันนอกจากเราจะผลิตในโรงงานประกอบของเราแล้ว ก็มีส่วนหนึ่งที่ให้โรงงานของมิตซูบิชิประกอบให้ ซึ่งในตอนนี้ก็เริ่มลงมือทำแล้ว โดยจะผลิตรถที่โรงงานมิตซูบิชิไม่ต่ำกว่า 40,000 คัน ส่งผลให้การผลิตในปีนี้จากเดิมที่ตั้งไว้ 230,000 คัน ก็น่าจะเพิ่มเป็น 280,000 คัน"