หลบหนีความสับสนวุ่นวายของเมืองกรุงไปพักผ่อนริมทะเลกับ MINI COOPER CLUBMAN ตอนที่สอง...
MINI Cooper CLUBMAN พาผมวิ่งออกจากกรุงเทพมหานครด้วยความคล่องแคล่ว จากมิติตัวถังที่เล็กและสั้น ถึงแม้มันจะเป็นรุ่น CLUBMAN ซึ่งมีความยาวใกล้เคียงกับ Countryman และยาวกว่ารุ่นปกติเล็กน้อย แต่มันก็ยังดูสั้นกระชับ มากกว่ารถซีดานที่ผมใช้ในชีวิตประจำวันอย่าง Series-3 อากาศที่ร้อนราวกับอยู่ในตะแกรงปิ้งย่างของเมืองกรุง ทำให้คิดถึงท้องทะเลอ่าวไทยทางภาคตะวันออก ที่มีความสวยงามไม่แพ้ที่แห่งใดในโลก ผมควบเจ้าจิ๋วทรงแวนคันเล็ก โดยใช้ถนนเส้นมอเตอร์เวย์ ซึ่งเป็นถนนยอดฮิตในการเดินทางสู่ภาคตะวันออกของประเทศไทย เมื่อหลุดจากตัวเมืิองมาได้ไม่นาน ที่ย่านความเร็วประมาณ 120-140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เครื่องยนต์ 1.6 ลิตรของมันจะมีรอบประมาณ 3,500 รอบต่อนาที ค่อนข้างสูงไปสักนิด แต่ก็เป็นไปตามมาตรฐานของเครื่องสี่สูบ ดับเบิ้ล โอเวอร์ เฮด แคมชาร์ฟ ที่มีความจุไม่มากและมีขนาดที่เล็กบวกน้ำหนักที่เบาขึ้นอีกหน่อย การขับขี่ทดสอบเดี่ยวแบบไปเรื่อยๆ ไม่เร่งร้อน กลายเป็นความสุขทางอารมณ์ของผมอีกครั้ง เมื่อไม่ต้องใช้ความเร็วเหมือนกับการทดสอบรถยนต์แบบกลุ่ม ที่ต้องไล่ตามกันเป็นขบวนด้วยความเร็วสูง
พวงมาลัยที่คล้ายกับกำลังขับรถโกคาร์ท ส่งถ่ายการรับรู้อย่างดี ให้อารมณ์รถแข่งที่หาได้ยาก เมื่อเปรียบเทียบกับพวงมาลัยรถยนต์ยุคใหม่ มันกระชับและไวมากจนต้องตั้งสมาธิให้ดีเมื่อใช้ความเร็ว นี่คือรถ MINI ที่มีบั้นท้ายแปลกแยกจนกลายเป็นจุดเด่น มันเหมาะมากกับการที่สายพันธ์ุที่สองในรุ่น CLUBMAN จะเป็นรถคลาสสิกที่ถูกสะสมอยู่ในคอลเลกชั่นของ MINI ในโรงรถของใครบางคนที่ชื่นชอบศิลปะแนว Paul Smith เมื่อผมหลุดจากพัทยามาได้ เส้นทางต่อไปคือทางหลวงจังหวัดหมายเลข 3376 ที่มุ่งหน้าสู่อำเภอสัตหีบ มันเป็นทางสองเลนสวนกันและมีความยาวประมาณ 45 กิโลเมตรจากพัทยา ถ้าจะขับให้เร็วบนถนนแห่งนี้ รถของคุณต้องมีช่วงล่างที่ไว้ใจได้ มันต้องเกาะถนน มีการทรงตัวที่ดีเมื่อใช้ความเร็วและต้องมีเบรกที่สุดยอด ผิวทางที่ไม่เรียบและเต็มไปด้วยเนินยาวๆ ยังอุดมไปด้วยรถบรรทุกขนาดใหญ่ การยึดเกาะที่ดีของเจ้า CLUBMAN บนถนนเส้นนี้ แม้จะแลกมาด้วยความรู้สึกที่กระด้างกระดอน แต่ผมยินดีและเต็มใจเป็นอย่างมากที่มันเป็นแบบนี้ รถทุกคันที่เกาะถนนได้ดีจะไม่มีการปรานีกับก้นของคุณแม้แต่น้อย การโยนตัวเกิดขึ้นบ้างในบางครั้ง เมื่อต้องลอยผ่านยางมะตอยที่ใช้แปะหลุมบ่อ ซึ่งเกิดจากการกระทำของรถบรรทุกหนัก และสภาพอากาศแบบเมืองร้อนที่มีฝนสลับแดดตลอดทั้งปี ยาง Goodyear Excellence ไซส์ 195/55/R16 ทำหน้าที่สอดรับกับช่วงล่างได้ดี แม้เนื้อยางจะแข็งไปบ้างแต่การเกาะถนนนั้นถือได้ว่าเยี่ยม
เจ้า Cooper CLUBMAN ที่ผมกำลังลงแส้อยู่นี้ เป็นรถทดสอบของ BMW Group Thailand มันวิ่งมาเพียงแค่ 4,000 กิโลเมตรเศษเท่านั้น จึงถือว่าสดใหม่ใช้ได้ อาการต่างๆ ที่จะสื่อให้เห็นถึงความเสื่อมโทรมยังคงไม่ปรากฏ และนับเป็นรถทดสอบอีกคันที่มีสภาพสมบูรณ์มากแชสซีส์ที่แข็งและฐานล้อที่ยาวกว่ารุ่นมาตรฐาน ทำให้ตัวรถออกอาการเตือนผู้ขับ ให้รับรู้ถึงความรู้สึกว่าหน้าดื้อโค้งหรือท้ายห้อยก่อนเสมอ มันจะบอกคุณให้รู้ทันทีว่า จะเริ่มเสียการทรงตัวแล้วนะหากพยายามใส่มากจนเกินไป Cooper CLUBMAN เป็นรถที่ง่ายต่อการแก้อาการดังกล่าว และมักจะยั่วยุให้เจ้าของขับเร็วกว่าปกติเสมอ แม้จะเป็นรุ่นที่ไม่มีระบบอัดอากาศเทอร์โบ แต่ท่อไอเสียที่ถูกปรับแต่งเสียงมาเป็นอย่างดี จะทำให้คุณพึงพอใจเมื่อใด้ยินยามอัดเข้าสู่รอบสูงๆ การมองกระจกบังลมบานหน้า ผ่านมาตรวัดรอบทรงกลมคล้ายรถแข่ง จะยิ่งทำให้คุณใช้คันเร่งบนเจ้านี่บ่อยยิ่งขึ้น และมันก็จะตอบสนองอย่างกระฉับกระเฉงทุกครั้งที่กดคันเร่ง แม้คันเร่งไฟฟ้าจะถูกหน่วงให้ไม่ไวจนเกินไป แถมยังน่าหงุดหงิดบ้างเป็นบางครั้งที่กดคันเร่งแล้วต้องรออีกนิด อาการดังกล่าวแทบจะไม่ปรากฏเมื่อผมได้เคยลองรุ่น Cooper-S R56 เมื่อต้นปีที่แล้ว แต่พยายามลืมเรื่องนั้นไปเถอะเพราะรุ่น CLUBMAN Cooper ที่ไม่มีตัว S ต่อท้ายมีราคาต่ำกว่า และเหมาะมากกับสาวๆ ที่ต้องการรถแนว แต่ไม่ได้ต้องการรถพลังสูงตัวเล็กที่แรงจัดจ้านจนเกินไปแล้วเอาไม่อยู่
รุ่นแยกย่อยของ MINI อาจทำให้คนทั่วไปสับสนได้ง่าย มันมีรุ่นท้ายตัดแบบธรรมดาทั่วไป รุ่นที่ยาวมากกว่าปกติอย่าง Cooper CLUBMAN คันที่ผมกำลังขับ รุ่นที่มีรูปทรงแบบสปอร์ต จากหลังคาทรงหมวกแก็ปและมีเพียงสองที่นั่งอย่าง Coupe แล้วก็มาถึงรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ Countryman ที่กำลังโลดแล่นอยู่ในสนามแข่งแรลลี่ชิงแชมป์โลก รวมถึงรุ่นล่าสุดอย่าง Roadster เปิดประทุนสองที่นั่งท้ายลาด ทุกรุ่นเป็นรถที่ขับได้สนุกสุดๆ ทันทีที่กดปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์ สัดส่วนของตัวถังที่เล็กยังทำให้รู้สึึกว่ามันเร็วกว่าความเป็นจริง ห้องโดยสารที่ตกแต่งมาเป็นอย่างดีในสไตล์ของ BMW ทำให้รู้สึกพึงพอใจได้ง่ายยามใช้งาน ผมเล็งจุดที่จะใช้เก็บภาพเจ้า Cooper CLUBMAN ไว้นานแล้ว กับการถ่ายภาพเจ้าจิ๋วตัวแสบที่มีอากาศยานของกองทัพเรือ รวมถึงเครื่องบินพาณิชย์ที่ปลดประจำการแล้ว โลเคชั่นสำหรับถ่ายภาพรถยนต์สวยๆ ในเมืองไทย ยังคงพอมีหลงเหลืออยู่บ้างแม้จะไม่มาก และวันนี้คือโอกาศอันดี ที่จะได้เข้าไปเก็บภาพในเขตฐานทัพเรือสัตหีบบริเวณรันเวย์เก่า ซึ่งถูกใช้เป็นที่จอดอากาศยานเก่าแก่หมดอายุการใช้งาน
ในปี พ.ศ. 2507 กองทัพเรือจึงได้สร้าง สนามบินขึ้นมาที่ บ้านอู่ตะเภา ตำบลพลา อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง โดยใช้งบประมาณของกองทัพเรือ ระหว่างการก่อสร้างประเทศสหรัฐอเมริกาได้เสนอความช่วยเหลือในการก่อสร้าง และขอใช้สนามบินอู่ตะเภาบางส่วนเป็นการตอบแทน กิจการหมวดบินทหารเรือ ได้เจริญก้าวหน้าโดยลำดับและได้รับอนุมัติให้ขยายอัตราเป็นกองบินทหารเรือ เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ.2514 จากความสำคัญของกำลังอากาศนาวี และภารกิจของกองทัพเรือที่จะต้องรักษาทรัพยากรของชาติทางทะเลและปกป้อง อธิปไตย เหนือน่านน้ำไทย และทำให้กองทัพเรือ ต้องเพิ่มกำลังทางเรือมากขึ้น เป็นผลทำให้ กองบินทหารเรือ ต้องมีภารกิจ มากขึ้นตามไปด้วย กองทัพเรือจึงได้ขยาย กองบินทหารเรือ เป็นกองการบินทหารเรือ เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ.2533 และได้ถือเอาวันที่ 7 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันคล้าย วันสถาปนากองการบินทหารเรือ ซึ่งเป็นวันที่ สภาบัญชาการ กระทรวงทหารเรือ ได้มีมติอนุมัติให้จัดตั้ง กองบินทหารเรือขึ้น สอดคล้องกับประวัติศาสตร์การกำเนิดกิจการบินนาวี
หลังจากเก็บภาพเสร็จเรียบร้อย 17.15 น. ผมขับเจ้า MINI Cooper CLUBMAN ย้อนกลับมายังตัวเมืิองพัทยาและอ่าวจอมเทียนเพื่อให้ทันกับแสงที่ค่อยๆ หมดลง ช่วงต้นเดือนพฤษภาคมของปีนี้ดูเหมือนฝนในเขตภาคตะวันออกจะมาล่าช้ากว่าทุกครั้ง วิวทิวทัศน์ที่เริ่มหายากมากขึ้นจากสิ่งปลูกสร้างจำนวนมากทั้งโรงแรม คอนโดมิเนียม ร้านค้าร้านอาหารและผับบาร์ ซึ่งขยายตัวอย่างรวดเร็ว หัวเมืองท่องเที่ยวชายทะเลสุดฮิตในเขตจังหวัดชลบุรีอย่างพัทยา ยังพอมีมุมที่สงบเงียบอยู่บ้างที่เหมาะกับการถ่ายภาพรถยนต์ ผมใช้ความเร็วต่ำขับไปยังแถบประภาคาร ซึ่งเป็นถนนเลียบท่าจอดเรือท่องเที่ยว เชื่อมต่อกับทางขึ้นโรงแรมโรยัลคลิฟอันสงบเงียบในวันธรรมดา ลัดเลาะไปตามทางลาดยางกับเจ้า Cooper CLUBMAN เบาะของมันถูกปรับให้อยู่ในตำแหน่งต่ำแต่พอดี เบาะค่อนข้างนิ่มและนั่งได้กระชับทำให้สามารถจับอาการของรถได้อย่างชัดเจน คันเกียร์ออโต้ 6 สปีดอยู่ในระดับที่พอเหมาะพอดีกับมือซ้ายและไม่จำเป็นต้องใช้มันบ่อยนักบน เส้นทางขึ้นลงเนินเขา เนื่องจากยังมีแป้นเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์บริเวณหลังพวง มาลัยมาให้ใช้งานควบคู่ไปกับโหมดสปอร์ต การจราจรเริ่มคับคั่งมากขึ้นเมื่อลงจากเขาแถบโรงแรมโรยัลคลิฟ เพืิ่อมุ่งหน้าไปยังอ่าวจอมเทียน แต่ไม่ไช่ปัญหาสำหรับเจ้า Cooper CLUBMAN ที่มีมิติตัวถังสั้นกว่ารถซีดานขนาดเล็ก
ถนนเลียบชายหาดจอมเทียนของช่วงเย็นในวันธรรมดามีผู้คนไม่มากนักและพอมีช่องทาง ให้เก็บภาพรถกับทะเลได้บ้าง เจ้า Cooper CLUBMAN ออกอาการกระเด้งกระดอนเป็นบางครั้งเมื่อวิ่งผ่านผิวถนนที่ไม่เรียบ อุณหภูมิ 34 องศาเซลเซียสแม้จะใกล้ 6 โมงเย็นทำให้อากาศรอบๆ อ่าวจอมเทียนร้อนอบอ้าวจนแทบไม่อยากออกไปจากห้องโดยสารอันเย็นฉ่ำของ CLUBMAN ถนนเลียบอ่าวจอมเทียนยังคงจอแจจากเรือเร็วนักท่องเที่ยวที่คนขับเรือ ต่างเร่งทยอยเอามันขึ้นเทรลเลอร์หลังจากนักท่องเที่ยวเริ่มลดน้อยลงเมื่อใกล้ พลบค่ำ โดยภาพรวมแล้ว MINI Cooper CLUBMAN เป็นรถที่ขับได้สนุกคันหนึ่ง มันสามารถเชื่อมโยงประวัติศาสตร์ของรถเล็กจากอังกฤษเมื่อกว่า 53 ปีก่อนได้อย่างสมบูรณ์แบบ จากสไตล์ รูปทรง การขับขี่และอุปกรณ์ตกแต่งที่เป็นเอกเทศ ซึ่งผลิตโดย BMW Group การกระจายน้ำหนักที่ดีบวกฐานล้อสั้นๆส่งผลให้มันค่อนข้างไวและเร็วในทางโค้ง วกวน เครื่องยนต์ 120 แรงม้าในรุ่น Cooper ของมันเพียงพอต่อการใช้งานบนถนนของประเทศไทย หากอยากได้กำลังที่มากขึ้น ซึ่งจะกระชากกระชั้นทุกครั้งที่กระทืบคันเร่งคงต้องมองไปที่รุ่น Cooper-S 187 แรงม้า หรือถ้ายังไม่สาแก่ใจก็ยังมีรุ่นสูงสุดอย่าง CLUBMAN John Cooper Work ที่มีม้ามาให้ถึง 210 ตัว จากการเสกเป่าของเทอร์โบแบบ twin scroll พร้อมระบบ Over-Boost ที่เร่งได้สุดๆ ยันเรดไลน์ ที่ 245 กิโลเมตรต่อชั่วโมง!! การขับ MINI ที่ทั้งเตี้ยและแข็งบวกเสียงท่อที่ดังสนั่นแบบ Cooper CLUBMAN ความรู้สึกที่รับรู้ได้จากประสาทสัมผัสจึงเหมือนกับว่ามันเร็วกว่ารถปกติมาก ทั้งๆ ที่ใช้ความเร็วเท่ากับรถทั่วไปที่กำลังวิ่งกันอยู่บนถนน หากคุณใช้งานมันในเมืองเป็นส่วนใหญ่แล้ว รุ่น Cooper ที่มีราคาต่ำกว่ารุ่นเทอร์โบน่าจะเป็นคำตอบที่ดี สิ่งที่น่าผิดหวังของมันมีแค่เพียงอย่างเดียวเท่านั้นคือ มันกินเชื้อเพลิงพอๆ กันกับรุ่น Cooper-S นั่นเอง.
Arcom roumsuwan
E-Mail [email protected]
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
