วันนี้ (25เม.ย.) เมื่อเวลา 09.00 น. พ.ต.อ.ปรีดี พงศ์เศรษฐสันต์ หน.พิสูจน์หลักฐาน 1 , พ.ต.อ.อนุราช จิตศิลป์ ผกก.พิสูจน์หลักฐาน 1 พร้อมด้วย พ.ต.ท.โกศล ภาคาหาญ สวส.เจ้าของคดี เดินทางไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุภาย บริเวณหอสมุดภายในวัดพนัญเชิงวรวิหาร หมู่ 3 ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งถูกเพลิงไหม้เสียหายเมื่อวันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา
 

เบื้องต้นพบว่า เพลิงได้เผาไหม้ตู้พระไตรปิฎกบางส่วนที่อยู่ด้านบน แต่ของเก่าเดิมซึ่งอยู่ชั้นล่างไม่ได้ถูกเพลิงไหม้ อย่างไรก็ตามเอกสาร เกี่ยวกับการศึกษาพระธรรม ที่เก็บอยู่ที่ชั้นล่างจำนวนมาก เสียหายทั้งหมด ส่วนชั้นบนมีเพียงตู้ที่เพิ่งสร้างเอาไว้แสดงสิ่งของ หรือเก็บข้าวของ ที่ยังไม่มีการใช้งาน เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามที่จะตรวจสอบดูบริเวณจุดที่มีการติดตั้งระบบควบคุมกระแสไฟฟ้าภายในอาคาร และระบบการเดินสายไฟฟ้าต่างๆภายในอาคาร ซึ่งยังไม่สามารถที่จะระบุจุดที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้ได้ แต่ยืนยันว่าสาเหตุสำคัญคือการเกิดกระแสไฟฟ้าลัดวงจรจากชั้นบนของอาคารอย่างแน่นอน

พระเทพรัตนากร เจ้าอาวาสวัดพนัญเชิงวรวิหาร และเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่าอาคารดังกล่าวไม่มีใครเข้าไปทำงาน เนื่องจากคนงานหยุดไปตั้งแต่ก่อนสงกรานต์ รู้สึกเสียดายตู้พระไตรปิฎกและเอกสารต่างๆอย่างมาก ซึ่งอาคารหลังนี้สร้างเมื่อปี 2500 อายุประมาณ 54 ปีเศษ เคยใช้เป็นโรงเรียนพระปริยัติธรรม สอนบาลี แต่มาภายหลังได้มีการปรับปรุงความแข็งแรงขึ้นใหม่ เพื่อให้เป็นพิพิธภัณท์และห้องสมุดของวัด

โดยได้เริ่มที่จะปรับปรุงตกแต่งภายในด้วยการใช้ไม้หอม และการตกแต่งลวดลายไทยที่งดงาม  เดิมมีตู้พระไตรปิฎก 10 ตู้ที่อยู่ด้านบน แต่ต่อมาถูกโจรกรรมไป 1 ตู้เคยเป็นข่าวมาแล้ว จึงได้ย้ายลงมาอยู่ข้างล่างเหลืออยู่ 9 ตู้ รวมทั้งเอกสารอื่นๆ ซึ่งเป็นที่น่าอัศจรรย์เนื่องจากตู้ที่ถูกเพลิงไหม้นั้น เป็นตู้ใหม่ที่อยู่ด้านบน แต่ของเดิมอยู่ชั้นล่างไม่ได้รับความเสียหาย และพระไตปิฎกอยู่ครบสมบูรณ์ เพียงแต่เปียกน้ำบางส่วน ขณะนี้รอวิศวกรที่จะมาตรวจสอบความแข็งแรงของอาคาร หากซ่อมไม่ได้ ก็จะทำการรื้อสร้างใหม่ทั้งหลัง ส่วนค่าเสียหายจริงๆนั้น  ไม้มูลค่าประมาณ 40 ล้านบาทเศษ และค่าตกแต่ง ค่าแรงประมาณ 10 ล้านบาท